รุ่นไหนดี 9 อันดับ ลิปมัน มีที่ไหน อัพเดทล่าสุดปี 2567

พบกับส่วนลด โปรโมชั่น ราคาถูก มีให้เลือกหลากหลาย - โปรส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง จัดเต็มกับโปรโมชั่นมากมาย พร้อมส่วนลดแบบจุกๆ ลดพิเศษสูงสุดมากถึง 70% พลาดไม่ได้ ต้องร้านแนะนำของเราเท่านั้น
คุณภาพเจ๋ง ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ ลิปมัน  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง ลิปมัน  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง สินค้าดีๆ ราคาถุก จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่พบปัยหาเลยกับทางร้านค้า

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อลิปมันแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง ลิปมัน นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในลิปมันอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ ลิปมันแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

“ลิปมัน” เป็นไอเทมที่ช่วยปกป้องริมฝีปากของเราให้ห่างจากปัญหาความแห้งกร้าน ลอก เป็นขุย ปัจจุบันลิปมันที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็คงจะหนีไม่พ้นลิปมันจาก Carmex, LANEIGE, DHC ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ให้โดดเด่นด้วยคุณสมบัติ เป็นต้นว่า ทำจากส่วนผสมออร์แกนิคธรรมชาติ, ให้ความชุ่มชื่นสูง, เปลี่ยนสีได้ เป็นต้น เมื่อหาข้อมูลในในเว็บไซต์แนะนำเครื่องสำอางก็มีเขียนข้อดีข้อเสียของลิปมันมากมายจนทำให้หลายคนประสบปัญหาในการเลือกซื้อ ว่าลิปมันยี่ห้อไหนดีนะที่เหมาะกับเรา

บทความนี้จึงขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อลิปมันและ 10 อันดับลิปมันคุณภาพดีที่ไม่เพียงแต่สาว ๆ เท่านั้นที่ใช้ได้ หนุ่ม ๆ ก็สามารถใช้ได้ด้วย หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้วหวังว่าผู้อ่านจะสามารถเลือกซื้อลิปมันที่เหมาะกับตัวเอง เพื่อให้ริมฝีปากของคุณเนียนนุ่มน่าสัมผัสป้องกันปัญหาริมฝีปากแห้ง ลอกกันค่ะ
สิ่งแรกที่สำคัญในการเลือกซื้อลิปมันคือ การเลือกซื้อลิปมันที่เหมาะกับสภาพริมฝีปากของตนเอง ไม่เพียงแต่คำนึงถึงส่วนผสมและความชุ่มชื่นเท่านั้นแต่ยังต้องคำนึงถึงรูปแบบของลิปมันที่เหมาะกับลักษณะริมฝีปากของตนเองด้วย
ลิปมันมีหลายประเภท เช่น ประเภทที่ใช้เป็นเครื่องสำอาง ประเภทเวชสำอาง และประเภทยา ก่อนอื่นผู้อ่านต้องทำความเข้าใจว่าแต่ลิปมันละชนิดมีจุดประสงค์ในการใช้อย่างไรเพื่อที่ผู้อ่านจะได้เลือกลิปมันที่ตรงกับความต้องการได้
ลิปมันประเภทยามีส่วนผสมของตัวยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลที่ริมฝีปาก เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง แตก ลอกเป็นขุยอย่างรุนแรง ช่วยในการฟื้นฟูสภาพริมฝีปากที่เป็นแผลให้กลับมามีสุขภาพดี อย่างไรก็ตามลิปมันประเภทยานั้นอาจมีคุณสมบัติให้ความชุ่มชื่นน้อยกว่าลิปมันทั่ว ๆ ไปเพราะเน้นการรักษาอย่างตรงจุด หากไม่มั่นใจให้ลองปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ค่ะ
ลิปมันประเภทนี้มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่คงความชุ่มชื่นได้ยาวนาน แม้จะไม่ได้ช่วยในการรักษาแผลหรือรอยแตกได้โดยตรงแต่ก็สามารถป้องกันริมฝีปากแห้งแตกในระดับปกติได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ
ลิปมันประเภทนี้จะมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก แต่ก็มีผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะพิเศษอย่างอื่นเพิ่มขึ้นมาเช่น มีสารป้องกันแสง UV มีสีและกลิ่น หรือสามารถใช้เป็นเบสทาก่อนลงลิปติกได้ น่าจะถูกใจสาว ๆ ที่ต้องการมากกว่าการให้ความชุ่มชื้นต่อริมฝีปากค่ะ
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนเลือกซื้อลิปมันเพราะต้องการให้ริมฝีปากตนเองนั้นชุ่มชื้นมากขึ้น ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีส่วนผสมอะไรบ้างที่ให้ความชุ่มชื้นและบำรุงริมฝีปากเราได้อย่างดีเยี่ยม
ส่วนผสมอย่างน้ำผึ้งหรือกรดไฮยาลูรอนิคมีความสามารถในการดึงความชุ่มชื้นจากน้ำในอากาศ ส่วนน้ำมันจากพืชต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Jojoba Oil, Castor Oil, Olive Oil, Macadamia Oil, Squalane ก็ช่วยกักเก็บน้ำที่สะสมไว้ในผิวไม่ให้หนีไปไหน ส่วนผสมจากธรรมชาติต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและยังรักษาความชุ่มชื้นไว้ได้อย่างยาวนาน แต่แต่ละชนิดมีกลิ่นและสัมผัสการใช้ที่แตกต่างกันไป แนะนำให้เลือกส่วนผสมที่เข้ากับการใช้ของตัวเองและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้นะคะ
สารวาสลีนที่มักพบในเครื่องสำอางเมื่อทาจะหยุดอยู่แค่ผิวชั้นนอก มีหน้าที่ป้องกันน้ำในผิวหนังระเหยและทำหน้าที่ปกป้องผิวหนังของเราไปด้วยแต่ไม่ได้ซึมเข้าไปในชั้นผิว เหมาะสำหรับเอาไว้ทาริมฝีปากที่แห้งเป็นขุยได้ง่ายเป็นอย่างยิ่งค่ะ
ลิปมันมีทั้งแบบเป็นแท่งและแบบเป็นกระปุกที่คนไทยมักเรียกว่าลิปบาล์ม แต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไปค่ะ อย่างแบบแท่งก็จะมีข้อดีตรงที่หยิบมาใช้ทาได้สะดวกรวดเร็ว แต่ก็จะมีเนื้อค่อนข้างแข็งซึ่งถ้าเนื้อของลิปแข็งเกินไปอาจจะเกี่ยวกับรอยลอกที่ริมฝีปากหรือเสียดสีทำให้ริมฝีปากเป็นแผลได้
ส่วนแบบบาล์มมักจะละลายตามอุณหภูมิของร่างกายได้ง่าย ทาได้ลื่นแม้กับริมฝีปากที่แห้ง แต่ว่าเวลาทาต้องใช้นิ้วตักทาไม่สะดวกเท่าแบบแท่ง อีกทั้งยังเสี่ยงที่เชื้อโรคจากนิ้วมือจะไปปนเปื้อนในเนื้อลิปอีกด้วยค่ะ
Vaseline Pure Petroleum Jelly เป็นครีมสารพัดประโยชน์ที่ไปว่าจะไปไหน ต้องพกใส่ขวดเล็ก ๆ ติดตัวไปด้วยตลอดเสมอ เราเป็นคนปากแห้งมาก เคยลองใช้ลิปมันและลิปบาล์มมาหลายยี่ห้อ บางอันก็แพ้จนต้องเลิกใช้แม้จะชอบ สุดท้ายก็กลับมาใช้วาสลีนตลอดเลยเพราะไม่แพ้ ไม่มีกลิ่นและรักษาอาการแห้ง แตก ได้อยู่หมัด เลยใช้ตลอดมาหลาย 10 ปี

ยิ่งถ้าไปเที่ยวฤดูหนาว วาสลีนเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเพราะอากาศหนาวจะทำให้ผิวเราแห้งและแตก นอกจากปากแล้ว ตรงมุมเล็บก็เป็นบริเวณที่แห้งมากเช่นกันและหากปล่อยทิ้งไว้จะแตกมากขึ้นจนเจ็บ หันซ้ายแลขวาไม่มีอะไรก็หยิบวาลีนมาทาได้เลย รับรองหาย! นอกจากจะรักษาอาการแห้งแตกแล้วยังช่วยเรื่องศอกด้านดำได้ด้วย เป็นครีมสารพัดนึกที่อมตะตลอดกาลจริง ๆ

โดยทั่วไปประโยชน์ของลิปมันก็คือ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ริมฝีปาก แต่หากมีลิปมันที่นอกจากจะสร้างความชุ่มชื้นแล้วยังสามารถกันแดดและมีสีสันเพิ่มความสดใสให้ริมฝีปากด้วย ก็คงจะดีไม่น้อยใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นมายเบสท์จึงขอแนะนำบทความที่จะมาแนะนำลิปมันแต่ละแบบให้เพื่อนไปเลือกซื้อเพิ่มความสวยกัน ใครพร้อมแล้วเข้าไปอ่านได้เลยค่ะ

หลังจากทราบเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อลิปมันกันไปแล้ว ต่อจากนี้ผู้เขียนจะแนะนำเกี่ยวกับ 10 อันดับ ลิปมัน ยอดฮิตขายดีกันนะคะ ซึ่งคุณผู้อ่านไม่ว่าจะเป็นสาว ๆ หรือหนุ่ม ๆ ก็สามารถนำไปปรับใช้ในการเลือกซื้อกันได้ค่ะ
ลิปมันที่มี SPF20 ช่วยปกป้องริมฝีปากจากแสงแดดไม่ให้ดำคล้ำ มีสารสกัดจากใบบัวบกช่วยสมานแผลและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเชียร์บัตเตอร์ที่ช่วยปรับสภาพและฟื้นฟูริมฝีปากให้มีสุขภาพดี ผู้ใช้กว่า 85% ยอมรับว่าริมฝีปากเรียบและเนียนนุ่มขึ้นหลังใช้ภายใน 1 สัปดาห์ แต่ให้ความชุ่มชื่นได้ในระดับปานกลางจึงอาจต้องทาซ้ำบ่อยครั้ง

เนื้อลิปไม่ละลายง่ายเมื่อถูกความร้อน มีกลิ่นผลไม้อ่อน ๆ ช่วยเพิ่มสีสันให้ริมฝีปากได้อย่างบางเบา มาในแพ็กเกจที่น่ารัก สะดุดตา ราคาเป็นมิตร เหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงริมฝีปากทั่วไป เป็นที่นิยมในกลุ่มนักเรียน นักศึกษา
ถึงแม้จะผลิตจากปิโตรเลี่ยมเจลลี่ แต่ก็มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมเฉพาะของวาสลีน (Vaseline® Jelly) ที่มีการทำให้บริสุทธิ์อย่างเข้มงวดถึง 3 ขั้นตอน ผ่านการแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่าไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรือการแพ้และยังช่วยทำให้ริมฝีปากกระจ่างใส ช่วยรักษาน้ำในผิวไม่ให้ระเหยออกไป

เนื้อลิปมีความยืดหยุ่น นุ่มและทาง่าย อีกทั้งยังมีกลิ่นกุหลาบที่ถูกใจสาว ๆ เป็นอย่างมาก ทาแล้วให้สีชมพูอ่อน ๆ เหมาะสำหรับการแต่งหน้าลุคธรรมชาติ ภาชนะบรรจุขนาดเล็กง่ายต่อการพกพา ข้อเสียคือต้องใช้นิ้วในการทาจึงจำเป็นต้องระมัดระวังในเรื่องความสะอาด
ลิปมันจากอเมริกา มีจุดเด่นคือส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ 100% และส่วนผสม Organic 95% เช่น เชียร์บัตเตอร์, น้ำมันดอกทานตะวัน, โจโจ้บาออยล์ ฯลฯ ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง (Dermatologist tested) ว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ (Hypoallergenic) ปราศจากพาราเบนและปิโตรเลียม จึงเหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากแพ้ง่าย ผู้ที่มีริมฝีปากแห้งแตกอีกด้วยค่ะ

เนื้อลิปไม่มันเยิ้ม ให้ความชุ่มชื่นได้ดี มาพร้อมกลิ่นหอมมิ้นต์ทำให้ทาแล้วรู้สึกเย็นสดชื่น เวลาใช้งานก็หมุนใช้งานได้สะดวก ไม่ต้องใช้นิ้วแตะตัวลิป แถมแพคเกจก็เป็นสีฟ้าพาสเทลเพิ่มความน่ารักให้แก่ผู้ใช้อีกด้วย สาว ๆ คนไหนชอบสีพาสเทลต้องมีไว้ในครอบครองแล้วล่ะค่ะ
Himalaya แบรนด์จากประเทศอินเดียที่มีแนวคิดจุดขายคือการนำสมุนไพรธรรมชาติที่ปลูกขึ้นตามหลักเกษตรอินทรีย์มาสกัดเป็นส่วนผสม โดยในลิปมันตัวนี้มีส่วนผสมจากสมุนไพรธรรมชาติถึง 5 ชนิดด้วยกัน ได้แก่ น้ำมันละหุ่ง (Castor Oil), น้ำมันเมล็ดแครอท, น้ำมันจมูกข้าวสาลี, Sweet Indrajao (ดอกพุดพิชญา) และน้ำมันมะพร้าว ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามิน A และ E บรรเทาอาการอักเสบและช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นได้หลังใช้ภายในไม่กี่วัน

แพ็กเกจเป็นหลอดบีบ จึงง่ายต่อการพกพา เนื้อลิปเป็นเจลขุ่น ๆ ไม่มีสี มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ค่อนข้างเหลวทำให้เมื่อเจอสภาพอากาศร้อน ๆ อย่างบ้านเราอาจหลุดลอกได้ง่าย เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งและผู้ที่อยู่ในอากาศหนาว
สำหรับคนที่ผิวแพ้ง่ายต้องการบำรุงริมฝีปากที่แห้งผากอย่างล้ำลึกโดยไม่ได้สนใจว่าจะต้องมีกลิ่นสีใด ๆ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางอย่างลิปมันตัวนี้ของ Curel แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นที่มีเซราไมด์ และ Jojoba Oil ซึ่งเป็นสารบำรุงที่ให้ความชุ่มชื่นชั้นเยี่ยมเป็นส่วนผสม

ล็อกความชุ่มชื่นให้อยู่ภายในด้วยสูตร Adhesive Coat Formula ทำให้เนื้อลิปไม่หลุดลอกง่าย ๆ แม้เม้มริมฝีปากหรือแม้กระทั่งเวลาทานอาหาร แต่ก็ไม่มันเยิ้ม ช่วยปกป้องริมฝีปากจากสิ่งระคายเคืองรอบข้างตลอดวัน
ลิปมันจากอเมริกาที่โด่งดังมานานตัวนี้มีข้อดีตรงที่มี SPF 15 ช่วยป้องกันรังสี UV ที่เป็นตัวการทำให้ริมฝีปากดำคล้ำ ส่วนผสมประกอบไปด้วย Salicylic Acid ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไป และยังมี Cocoa Butter ที่อุดมไปด้วยวิตามิน E ช่วยปรับสีผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สามารถซึมซาบสู่ผิวได้รวดเร็ว ฟื้นฟูริมฝีปากที่แห้งแตกให้กลับมานุ่ม มีสุขภาพดี

เนื้อลิปไม่มีสี เข้มข้นแต่ไม่มันเยิ้ม ไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ๆ ส่วนกลิ่นนั้น เนื่องจากมีส่วนผสมของการบูรและเมนทอลจึงให้กลิ่นคล้ายยาหม่อง ทาไปแล้วรู้สึกเย็นสดชื่น เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากแห้งแตกและผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ หนุ่ม ๆ สามารถใช้ได้ด้วยค่ะ
พึ่งเปิด Flagship Store ในไทยไปได้ไม่นานแต่กระแสของ Fresh นั้นมีมาได้สักพักใหญ่แล้วโดยเฉพาะช่วงนี้ที่ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากกำลังมาแรงมาก ครั้งนี้ขอแนะนำลิปมันในไลน์ Sugar Lip ที่ 93% ของผู้ใช้รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของริมฝีปาก

ส่วนผสมอัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพอย่าง Jojoba Oil และ Olive Oil ช่วยบำรุงผิวยาวนานถึง 24 ชั่วโมง ทาก่อนเข้านอน ตื่นเช้ามาลิปบนริมฝีปากก็ไม่จางหายค่ะ และยังมี Sea Fennel ที่ช่วยลดริ้วรอยบนริมฝีปากให้เรียบลื่นขึ้น เนื้อลิปสามารถอ่อนตัวลงตามอุณหภูมิของร่างกายทำให้ทาง่าย มาพร้อมกลิ่นหอมถูกใจสาว ๆ ใครที่มีปัญหาปากแห้งง่ายมากหรือนอนในห้องแอร์เย็นจัด ตัวนี้ตอบโจทย์ค่ะ
ลิปมันสัญชาติ Australia จุดเด่นอยู่ที่สารสกัดจาก Carica Papaya หรือมะละกอ มีคุณสมบัติช่วยรักษาผิวหรือริมฝีปากที่โดนแดดเผา ริมฝีปากที่แห้ง แตกหรือเป็นแผล ทาแล้วปากนุ่มชุ่มชื่น นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับผื่นผ้าอ้อม แมลงกัดต่อย สิว ไฟไหม้ น้ำร้อนลวกได้ด้วย เรียกว่าเป็นยาสารพัดประโยชน์ของคนออสเตรเลียก็ว่าได้เลยค่ะ

ลิปมันตัวนี้ยังได้รางวัลการันตีจาก Trip Advisor ในปี 2014 และ 2015 ด้วยนะคะ ใครที่ต้องเดินทางไปในเขตหนาวจัดหรือใช้ชีวิตในห้องแอร์เย็นเป็นเวลานานควรพกไว้ติดตัวเลยค่ะ แต่มีข้อเสียอยู่ที่เนื้อลิปค่อนข้างข้น เป็นมันวาว เยิ้มง่าย หากทิ้งไว้ที่อากาศร้อนจัดอาจทำให้ละลายได้
ลิปมันตัวนี้มาในรูปแบบของ Sleeping Mask มีจุดเด่นของ LANEIGE คือ Berry Mix Complex™ ซึ่งสกัดจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มีวิตามินซีสูง ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่แห้งแตก มีเทคโนโลยีเฉพาะที่เรียกว่า MOISTURE WRAP™ ที่ทำหน้าที่เหมือน wrap ช่วยให้ริมฝีปากได้รับการบำรุงจากคุณค่าจากธรรมชาติยาวนานถึง 8 ชั่วโมงในขณะนอนหลับ

เนื้อลิปเหนียวข้น มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แพ็กเกจมาพร้อมไม้พายเล็ก ๆ ทำให้สะดวกในการใช้ ไม่เลอะมือและไม่ต้องกังวลในเรื่องความสะอาด หลังจากใช้สิ่งที่สังเกตได้คือ ริมฝีปากกลับมามีสุขภาพดี ปากนุ่มชุ่มชื่น อิ่มน้ำ เหมาะกับทุกสภาพผิวและผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากแห้งลอกเป็นขุย ส่วนข้อเสียคือ ราคาค่อนข้างสูงแต่ยืนยันว่ากระปุกนึงสามารถใช้ได้นานมากค่ะ
ลิปมันจาก DHC แบรนด์ดังในประเทศญี่ปุ่นที่ได้รับยอดขายอย่างล้นหลามทั้งในไทยและญี่ปุ่น มีจุดเด่นในเรื่องการใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติอย่างน้ำมันมะกอก (Olive Oil) ซึ่งช่วยรักษาอาการไหม้จากแสงแดด ว่านหางจระเข้ ชะเอม และวิตามิน E ไม่แต่งกลิ่น ไม่มีสี ปราศจากพาราเบน ไม่เพียงแต่ให้ความชุ่มชื้นเท่านั้นแต่ยังทำให้ริมฝีปากที่ดำหมองคล้ำกระจ่างใส อวบอิ่มและดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

เนื้อลิปไม่มันเหนอะหนะ เมื่อทาแล้วเรียบเนียนเข้ากับริมฝีปากทันที ไม่ต้องทาซ้ำบ่อย ใช้ในการลงเป็นรองพื้นก่อนทาลิปสติกได้ ป้องกันและแก้ปัญหาริมฝีปากแตก แห้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับใช้ทาตอนก่อนนอนหรือในช่วงอากาศหนาว
ได้ลิปมันที่ถูกใจกันไปแล้ว ก่อนจะจากกันไปเราก็มีเคล็ดลับการใช้งานมาฝากกันค่ะ ใครที่แก้ปัญหาริมฝีปากแห้งแตกไม่ได้สักที อาจต้องลองพิจารณาวิธีทาลิปของตนเองดูอีกครั้งนะคะ
ผิวหนังตรงริมฝีปากของเรานั้นบางมากและยังได้รับการกระทบกระเทือน เสียดสีบ่อยครั้งไม่ว่าจากการถูกขอบแก้วน้ำ ขวดน้ำดื่ม แม้กระทั่งเวลารับประทานอาหาร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้สีของริมฝีปากเราหมองคล้ำ อย่างไรก็ตามด้วยความที่ผิวส่วนดังกล่าวมีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวค่อนข้างเร็ว หากเรารักษาให้ชุ่มชื้นด้วยลิปมันอยู่เสมอไม่ต้องรอให้ปากแห้งก่อนก็จะป้องกันรอยหมองคล้ำได้ค่ะ
วิธีทาลิปมันที่ถูกต้องคือต้องทาเป็นแนวตั้งไปตามร่องริมฝีปาก เพราะจะช่วยให้เนื้อลิปซึมผ่านเข้าไปตามร่องปากได้ง่าย แม้เวลาใช้ลิปแบบแท่งก็อย่าลืมทาเป็นแนวตั้งนะคะ
แม้เราอาจจะไม่ค่อยได้ใส่ใจเท่าไหร่ แต่ลิปมันก็มีอายุการใช้งานเช่นกัน ถ้าก่อนเปิดฝาลิปมันจะอยู่ได้ 3 ปีนับจากวันผลิต แต่ถ้าเปิดฝาแล้วให้พยายามใช้ให้หมดภายในครึ่งปีจะดีกว่าค่ะ เพราะว่าริมฝีปากที่เราทาทั้งลิปสติก ลิปกลอสอยู่ทุกวันเป็นจุดที่สีสะสมให้หมองคล้ำง่ายอยู่แล้ว ยิ่งถ้าใช้ลิปมันที่เปิดไว้นานจนเสื่อมคุณภาพก็ยิ่งมีโอกาสทำให้ริมฝีปากดำขึ้นได้ โดยเฉพาะลิปแบบแท่งที่เราทากับปากโดยตรงก็อาจทำให้เกิดเชื้อโรคได้เพราะถูกน้ำลายของเราเอง ถ้าเป็นไปได้ให้พยายามใช้นิ้วหรือแปรงทาลิปสติกในการทาจะช่วยรักษาความสะอาดได้ดีกว่าค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับบทความการเลือกลิปมันที่เรานำมาฝาก อย่าลืมนะคะ ก่อนอื่นคุณผู้อ่านต้องทราบว่าสภาพริมฝีปากของตนเองเป็นอย่างไร จะได้เลือกซื้อลิปมันได้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การใช้ของผู้อ่านมากที่สุดค่ะ
การดูแลริมฝีปากนั้นไม่จำเป็นตอนทำเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น เพราะทุกวันเราต้องเจอทั้งลม แสงแดด และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การทาลิปมันเป็นประจำจะช่วยป้องกันความชุ่มชื่นที่เสียไปและป้องกันริมฝีปากคล้ำจากรังสี UV เพื่อริมฝีปากที่เนียนนุ่ม สุขภาพดี หมดปัญหาริมฝีปากแห้งแตกหรือเป็นขุย เมื่อมีริมฝีปากที่มีสุขภาพดีแล้วคราวนี้ก็พกความมั่นใจไปได้ทุกที่ไม่ต้องคอยกังวลอีกต่อไป