รีวิว 8 อันดับ เปลเด็ก เตียงเด็ก น่าใช้ คุณภาพเยี่ยม เจ๋งอ่ะ!! อัพเดทล่าสุดปี 2567

เมื่อคุณค้นหาสิ่งของบางอย่างที่ร้านค้าออนไลน์ คุณจะพบว่าคุณจะได้เจอสินค้าที่คุณมองหาอย่างง่ายดาย สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และไว้ใจได้ ผ่านโมบาย แอปพลิเคชั่น ดีๆที่เราแนะนำ
คุณภาพดี ราคาถูกมาก เราแนะนำเลยเจ้านี้ เปลเด็ก เตียงเด็ก  สินค้าออนไลน์  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง เปลเด็ก เตียงเด็ก  ไป ราคาถูกกว่าซื้อห้าง สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง คุณภาพเกินราคา ได้ลองแล้วนับว่าดีเลยทีเดียว ไม่มีปัญหา

     
คุณรู้หรือไม่? การเลือกซื้อเปลเด็ก เตียงเด็กแต่ละชนิดนั้นมีทั้ง เปลเด็ก เตียงเด็ก นอกจากจะพิจารณาเรื่องของการใช้งานไม่ว่าจะเป็น งบประมาณ คุณภาพ ความทนทาน ชื่อเสียงของแต่ละรุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาในเรื่องของพื้นที่ในการจัดวางและพื้นที่ใช้สอยในเปลเด็ก เตียงเด็กอีกด้วย โดยวันนี้เราได้จัดอันดับ เปลเด็ก เตียงเด็กแบบที่มีคุณภาพดีมีประสิทธิภาพมาให้คุณได้เลือกกันแล้ว ดังนี้

เปลเด็กมีกี่แบบ เลือกอย่างไร? ให้ปลอดภัยกับลูกน้อย
เปลเด็ก

เปลเด็ก เป็นเครื่องใช้อำนวยความสะดวกที่ช่วยเบาแรงคุณพ่อคุณแม่ได้ ไม่ต้องคอยอุ้มกล่อมนอนกันทุกครั้ง ทุกวันนี้มีเปลเด็กให้เลือกหลายประเภท ก่อนซื้อเปลควรทำความรู้จักเปลแต่ละประเภทว่ามีข้อดีอย่างไร แบบไหนที่ทำให้ลูกน้อยพอใจ หลับง่ายและนอนหลับสนิทได้นาน ลูกน้อยควรนอนเปลแบบไหนจึงปลอดภัย เป็นเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อ

ก่อนอื่นคุณแม่ควรทำความรู้จัก เปลนอนเด็ก ที่แตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัย  ดังนี้
  1. เปลโยก อุปกรณ์แรกเริ่มสำหรับทารกแรกเกิด เปลโยกที่ออกแบบคล้ายตะกร้าให้กระชับตัวเพื่อความปลอดภัย สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 4-6 สัปดาห์ จากนั้นขยับมาเป็นเปลโยกขนาดใหญ่ขึ้น ยังคงมีความกระชับพอดีตัวทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบายใจและหลับง่ายเหมือนนอนอยู่ในท้องแม่ ไม่ต้องห่วงว่าลูกน้อยจะพลัดตกลงมา ปรับใช้งานได้ทั้งท่านั่งและนอนเหมาะกับทุกการใช้งาน ขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับทารกแรกเกิดจนถึง 3 เดือน น้ำหนักเบาและเคลื่อนย้ายไปไหนได้สะดวกง่ายดาย ทำให้ลูกน้อยอยู่ข้างกายได้ตลอดเวลา
    • เคล็ดลับการเลือกซื้อ
      • ขนาดไม่ใหญ่เกินไป พกพาสะดวก
      • ลักษณะการโยกไม่แกว่งเกินไปจนเด็กไม่สบายตัว
      • เปลแน่นหนา ปลอดภัย ตัวเด็กไม่ลื่นตกลงมา
      • รองรับน้ำหนักได้ดี ปกติจะไม่เกิน 7-12 กิโลกรัม
      • เบาะนุ่มทำจากเนื้อผ้าคุณภาพดี ไม่ระคายเคืองผิวบอบบาง
  2. เปลไกว มีลักษณะเหมือนเก้าอี้ เป็นอีกรูปแบบที่นิยมซื้อหามาใช้งาน เพื่อแกว่งไกวให้ลูกน้อยนอนหลับง่าย ถ้าลูกตัวใหญ่มากควรเลือกเปลที่รับน้ำหนักของลูกได้
    • เคล็ดลับการเลือกซื้อ
      • ขนาดของเปลรองรับตัวลูกได้พอดี นอนสบาย ไม่อึดอัด
      • เคลื่อนย้ายได้สะดวก พับเก็บง่าย จัดเก็บไม่เปลืองเนื้อที่
      • โครงสร้างฐานแข็งแรงและสมดุล
      • เบาะนุ่มทำจากเนื้อผ้าคุณภาพ ไม่ระคายเคืองผิว
      • เบาะถอดซักได้ ช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย
      • ปรับเอนนอนได้หลายระดับ
      • ชุดโมบายห้อย (ถ้ามี) ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของเด็ก
  3. เปลไฟฟ้า ปัจจุบันมีเปลไกวหลายรุ่น หลายขนาด มีดีไซน์และฟังก์ชั่นแตกต่างกัน บางรุ่นมีระบบไฟฟ้าที่สั่นสะเทือนหรือแกว่งไกวอัตโนมัติโดยไม่ต้องเปลืองแรงไกว เปลไฟฟ้าใช้สะดวก เหมาะสำหรับเด็กวัยต่ำกว่า 3 เดือนที่ยังพลิกตัวนอนคว่ำหรือหงายเองไม่ได้
    • เคล็ดลับการเลือกซื้อ
      • โครงสร้างมีความแข็งแรง ขาของเปลทำจากวัสดุคุณภาพดี
      • ปรับระดับการไกวได้หลายระดับ เหมาะสมกับความชอบของแต่ละคน
      • จังหวะแกว่งไกวสม่ำเสมอ ช่วยให้ลูกน้อยหลับง่ายและหลับสนิทนาน
      • พับเก็บได้จะสะดวกมาก
      • มีโมบายหรือเสียงดนตรีช่วยกระตุ้นพัฒนาการของเด็ก
      • มีสายรัดเพื่อความปลอดภัย
      • เมื่อใกล้ถึงช่วงที่ต้องย้ายเด็กไปนอนเปลที่มีพื้นที่มากกว่า พ่อแม่อาจพยายามให้ลูกค่อย ๆ เกิดความคุ้นชินโดยเริ่มจากการนำเปลตะกร้าไปวางไว้ในเปลใหม่ก่อน
  4. เปลผ้าขาวม้า เป็นเปลผ้าที่ใช้กล่อมเด็กทารกกันมานานแล้ว ข้อดีคือกระชับตัว ไม่มีพื้นที่ให้ขยับตัวมาก นอนสบายคล้ายกับในท้องแม่ทำให้หลับนาน เปลไกวโคลงเคลงไปมาเมื่อแกว่งไกวส่งเสริมพัฒนาการทรงตัวของทารกด้วย ปัจจุบันมีผลิตออกมาหลายรูปแบบ ตัดเย็บจากผ้าและวัสดุอื่น บางรุ่นมีมุ้งกันยุงรอบทิศทาง
    • เคล็ดลับการเลือกซื้อ
      • เนื้อผ้าคุณภาพดี นุ่มสบาย ไม่ระคายผิว
      • พับเก็บง่าย ประหยัดพื้นที่ใช้งาน
      • พกพาสะดวก ติดตัวไปใช้ได้ทุกที่
      • โครงสร้างแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้มาก
      • บางรุ่นมีโครงฐานสำหรับตั้งกับพื้น มีฐานกันลื่นยึดติดกับพื้นได้ดี
เปลเด็ก ข้างต้นเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 6 เดือน เมื่อเด็กเริ่มลุกขึ้นนั่งได้เองแล้ว ควรเปลี่ยนเป็นเปลแบบอื่นที่ค่อนข้างใหญ่ รองรับการนอนของเด็กได้ดีและปลอดภัยสำหรับลูกน้อยวัยหัดคลานหรือหัดลุกยืนภายในเปล
การนอนเป็นเรื่องสำคัญของทารกวัยแรกเกิด ร่างกายต้องการการพักผ่อนนอนหลับอย่างอิ่ม มีผลต่อสุขภาพและพัฒนาการที่สมวัย คุณพ่อคุณแม่ควรเลือก ที่นอนเด็ก คุณภาพดีและปลอดภัย เป็นเคล็ดลับให้ลูกน้อยนอนหลับสบายและเติบโตอย่างมีความสุข การเลือกที่นอนเด็กให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ มีคำแนะนำเบื้องต้นดังต่อไปนี้
  1. เลือกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ได้แก่ ที่นอนเด็กยางพารา และเบาะหุ้มผ้าฝ้าย ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติระบายอากาศได้ดี มีความทนทาน ไม่เก็บกักฝุ่นและความชื้นซึ่งอาจก่อผลเสียทำให้ลูกเป็นภูมิแพ้ได้
    • ข้อดี
      • กลิ่นน้ำยางธรรมชาติป้องกันยุง ระงับเชื้อแบคทีเรียและปรสิตอย่างมีประสิทธิภาพ
      • ไม่กักเก็บความชื้นและฝุ่นละออง ป้องกันการแพร่กระจายของไรฝุ่น
      • ที่นอนรองรับน้ำหนักได้ดี มีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง แต่ไม่เกิดการยุบตัวซึ่งเสี่ยงอันตรายต่อทารก
      • ทำความสะอาดได้ง่าย แห้งง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นและกลิ่นอับ
    • ข้อเสีย
      • ที่นอนยางพาราแท้น้ำหนักมากและอาจแข็งเกินไป ควรเลือกชนิดที่มีวัสดุอื่นผสมหรือประกบชั้น
      • ราคาแพงกว่าที่นอนประเภทอื่น
ปัจจุบัน ที่นอนเด็กอ่อน มีจำหน่ายหลายรูปแบบ ดูสวยงามน่าใช้แต่ไม่ปลอดภัยสำหรับเด็กแรกเกิด เนื่องจากเบาะนุ่มยุบตัวอุดจมูกทำให้ลูกน้อยหายใจไม่ออก คุณพ่อคุณแม่จึงหันมาเลือกเบาะรองนอนที่ไม่ยุบตัวมากเพราะปลอดภัยกว่า เปลนอนแบบตะกร้าเป็นอีกตัวเลือกที่ช่วยให้กล่อมลูกนอนง่ายขึ้น เป็นที่นอนขนาดกะทัดรัดพอดีตัวทำให้เด็กน้อยไม่ลื่นตก เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 3 เดือนซึ่งยังคลานออกมาจากตะกร้าไม่ได้

ที่นอนทารก ที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร
  • เบาะมีความนุ่มแต่ไม่ยุบตัวง่าย
  • ความยืดหยุ่นปานกลาง เด็กเล็กนอนสบาย หลับสนิทได้นาน
  • รับน้ำหนักได้ดี ไม่ยุบเป็นแอ่งหลุม ความแน่นของ ที่นอนเด็ก ขึ้นอยู่กับขนาดตัวและน้ำหนักของเด็กด้วย
  • ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น
  • ไม่เก็บกักฝุ่นและไรฝุ่น ระงับเชื้อราและแบคทีเรีย
ทารกอายุไม่กี่เดือนเป็นวัยบอบบาง ที่ปล่อยให้คลายสายตานาน ๆ ไม่ได้ แม้แต่เวลานอนก็ต้องมั่นใจว่าเลือก เบาะนอนเด็ก เหมาะสม ปลอดภัย หากต้องการใช้เตียงนอน ควรเลือกสินค้าหรือแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน เตียงเด็กมีซี่ราวแนวตั้งตรงและค่อนข้างถี่ ถ้าใช้เบาะนอนแทนเตียง เบาะนอนต้องไม่นิ่มเกินไปและไม่แข็งมากจนนอนหลับไม่สบาย รวมถึงต้องระวังหมอน ผ้าห่ม ของเล่น และวัสดุอื่น ๆ ที่อาจอุดจมูกทำให้หายใจไม่สะดวก โดยเฉพาะเด็กเล็กที่กล้ามคอไม่แข็งแรง ยังยกศีรษะ หันหน้าหนี หรือพลิกตัวช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

ความหนานุ่มของ ที่นอนเด็ก อาจต้องพิจารณาที่ขนาดและน้ำหนักตัวของลูกน้อยเป็นหลัก หากเด็กตัวโตมีน้ำหนักมาก อาจต้องเลือกที่นอนมียางพาราผสมอยู่มากเพื่อให้รองรับน้ำหนักตัวได้ดี นอนแล้วไม่ยุบตัวเป็นแอ่งทำให้โครงสร้างหลังและกระดูกงอผิดสัดส่วน หรือยุบลงกดทับจมูกทำให้หายใจไม่ออก เวลาไปเลือกที่นอน อุ้มลูกลองวางดูว่าเบาะนอนแบบไหนรุ่นไหนพอดีกับลูกน้อย
เปลเด็ก

ทำไมเด็กถึงต้องมี เตียงเด็ก หรือ เปลเด็ก ? เพราะว่าเด็กนั้นมีขนาดตัวเล็ก การนอนเตียงเดียวกับผู้ปกครองอาจทำให้เกิดอันตรายต่อเด็กได้ เช่น การที่ผู้ปกครองนอนทับเด็กจนขาดอากาศหายใจ, เสี่ยงต่อการที่เด็กที่จะกลิ้งตกเตียง เพราะในขณะที่นอนหลับแล้วทั้งเด็กและผู้ปกครองต่างก็หลับเช่นกัน จึงเสี่ยงต่อการที่เด็กจะดิ้นตกเตียงจนได้รับบาดเจ็บได้ การให้เด็กนอนในเตียงเด็กหรือเปลสำหรับเด็กจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยมากกว่า ช่วยให้นอนหลับได้สบายและปลอดภัยทั้งครอบครัว
  1. เปลไกว แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ แบบไกวเองและแบบไกวอัตโนมัติ เปลไกวแบบเดิมเป็นแบบที่ไกวเอง ต่อมาได้มีการพัฒนาขึ้นเป็นเปลไฟฟ้าที่ไกวได้อัตโนมัติ สามารถปรับระดับความแรงของการไกวได้และตั้งเวลาการไกวได้ เปลไกวเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึง 3 เดือนที่มีน้ำหนักระหว่าง 7 – 12 กิโลกรัม เพราะเปลชนิดนี้รับน้ำหนักได้ไม่มาก ส่วนการไกวเปลให้ลูกน้อยควรไกวไม่เกิน 30 – 60 นาที เพราะจะทำให้เด็กเคยตัว หากสามารถปล่อยให้หลับเองได้แนะนำว่าให้คุณแม่กล่อมให้หลับจากอกจะดีกว่า ยังช่วยให้เด็กได้รับความอบอุ่นจากแม่อีกด้วย
  2. เปลตะกร้า เป็น เปลเด็ก ขนาดเล็กแบบพกพา มีลักษณะเหมือนตะกร้า สามารถพกพาได้สะดวก มีที่จับอยู่ทางด้านบน สามารถพับได้ มีฐานรองด้านล่าง ออกแบบมาให้มี 2 ประเภทเช่นกันคือ แบบไกวเองและแบบไกวอัตโนมัติ เปลตะกร้าเหมาะสำหรับแรกเกิดถึง 3 เดือน เป็นเปลที่ออกแบบมาให้นอนหลับได้สบาย บางรุ่นออกแบบมาให้มุ้งครอบที่ด้านบนเพื่อป้องกันยุงและแมลง บางรุ่นออกแบบมาให้ต่อเข้าล้อเป็นรถเข็นได้ และบางรุ่นก็ยังใช้วางบนคาร์ซีทได้ด้วย
  3. เปลลูกกรง เป็นเปลแบบตั้งอยู่กับที่ ผลิตจากลูกกรง เป็นทรงสี่เหลี่ยมที่มีขอบด้านข้างสูงเพื่อป้องกันการปีนป่าย ใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึง 6 เดือน เพราะหลังจากช่วง 6 เดือนแล้ว เด็กจะเริ่มคลานและลุกทำให้อาจเกิดอันตรายได้ เปลลูกกรงเป็นเปลที่ไกวเอง การใช้งานจะต้องนำชุดเครื่องนอนสำหรับเด็กมาใส่ก่อน เพราะโดยทั่วไปแล้วจะไม่มีชุดเครื่องนอนมาให้ ผู้ปกครองจะต้องซื้อเพิ่ม
  4. เปลเพน มีลักษณะเหมือนกับคอกเด็ก มีขอบกั้นด้านข้างเพื่อป้องกันการปีนป่าย เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่กำลังคลานและปีนป่าย เปลเพนออกแบบมาให้มีมุ้งครอบที่ด้านบนเพื่อกันยุงและแมลง สามารถใช้เป็นที่นอนหรือใช้นอนเล่นระหว่างวันได้
  • ไม่ควรนำหมอน ผ้าห่ม หรือตุ๊กตาไว้ในเปลมากเกินไป เพราะจะทำให้เตียงแน่นและทำให้เด็กขาดอากาศหายใจได้
  • เลือกฟูกที่มีขนาดพอดีกับเปล ไม่ควรเลือกฟูกที่มีขนาดเล็กกว่าเปลเพราะอาจทำให้นิ้วเด็กเข้าไปติดได้
  • เลือกเปลที่มีคุณภาพและรองรับน้ำหนักได้ตามวัย เปลแต่ละชนิดแต่ละรุ่นจะมีบอกอยู่แล้วว่าเหมาะสำหรับเด็กช่วงวัยไหน และรองรับน้ำหนักได้ไม่เกินกี่กิโลกรัมเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
  • ความห่างของซี่ลูกกรงไม่ควรห่างเกิน 5 นิ้ว เพราะทารกที่เกิดใหม่มีขนาดตัวที่เล็ก การเลือกเปลลูกกรงที่มีช่องห่างมากเกินไปอาจทำศีรษะของเด็กเข้าไปติดได้
  • ตรวจสอบความแข็งแรงของเปลอยู่เสมอ หากเป็นเปลประกอบเองหรือแบบพับได้ ควรตรวจสอบข้อต่อและวัสดุเชื่อมอยู่เสมอว่าชำรุดหรือหลวมหรือไม่
  • ควรดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าจะให้ลูกน้อยนอนอยู่ในเปลแล้ว แต่ผู้ปกครองเองก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ผ้าห่มหรือหมอนมาปิดหน้า รวมถึงการนอนคว่ำที่อาจทำให้ขาดอากาศ และควรจับลูกนอนหงายอยู่เสมอ
เปลเด็ก ในปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลายแบบ หลายวัสดุ ก่อนจะเลือกซื้อครั้งใดอย่าลืมคำนึงถึงคุณภาพ ความปลอดภัย และความจำเป็นในการใช้งาน เปลแต่ละชนิดมีอายุการใช้งานตามช่วงวัยของเด็ก การเลือกซื้อควรเลือกเปลที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละวัยเพื่อความปลอดภัยต่อลูกน้อยของคุณ