8 สุดยอดบลัชออนแบบน้ำ ใช้งานได้ดี คุ้มค่า คุ้มราคา อัพเดทล่าสุดปี 2567

เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่อยากซื้อออนไลน์แต่ไม่อยากไปซื้อเองที่ห้าง และที่สำคัญสินค้าบางแบรนด์ที่ขาย ราคาถูกกว่าเมื่อสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ สุดคุ้ม ดีลที่ดีที่สุดมาแล้ว ช้อปเพลินๆ สินค้าลดราคา สูงสุดและคูปองลดมากมาย ดีลสุดพิเศษ
ราคาพิเศษมาแนะนำลูกค้าที่น่ารัก ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ บลัชออนแบบน้ำ  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาถูกที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมา สั่ง บลัชออนแบบน้ำ  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาน่าจะลดลง เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเกินราคา ตอนนี้ลองใช้มาซักพักใช้ได้ดี ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
หากคุณกำลังมองหาบลัชออนแบบน้ำพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้หลากหลาย เราขอแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมบลัชออนแบบน้ำชั้นเลิศจากแบรนด์ผู้ผลิตที่คร่ำวอดอยู่ในวงการ โดยแต่ละชนิดมีทั้งแบบ บลัชออนแบบน้ำ ซึ่งวันนี้ทางเราจึงจัดอันดับ แนะนำ บลัชออนแบบน้ำ ที่ตอบโจทย์กับตัวคุณมาให้เลือกกันแล้วดังนี้

เอกลักษณ์ของบลัชออนแบบน้ำ คือ เนื้อบางเบา ใช้งานง่าย และให้ฟินิชลุคเป็นธรรมชาติ แก้มแลดูมีสุขภาพดีเหมือนผิวดีมาตั้งแต่เกิด จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการความแนบเนียนมากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับบลัชออนแบบฝุ่น แบบน้ำยังมีจำนวนน้อยกว่ามาก ทำให้ไม่ค่อยมีใครแนะนำวิธีการเลือกซื้อเท่าไร วันนี้ผู้เขียนเลยขอรวบรวมเนื้อหาและสรุปมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกัน


นอกจากนี้ผู้เขียนยังรวบรวมข้อมูลของสินค้าต่าง ๆ และเปรียบเทียบทั้งคุณสมบัติ ราคา และรีวิว ก่อนจะทำการเปรียบเทียบจนเหลือเพียง "10 อันดับ สินค้ายอดฮิตขายดี" เพื่อให้เพื่อน ๆ เลือกซื้อของที่มีคุณภาพให้กับตัวเอง โดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ

การเลือกบลัชออนแบบน้ำมีจุดที่ต้องพิจารณาทั้งหมด 3 ข้อใหญ่ ๆ ด้วยกัน เรามาเริ่มดูข้อแรกกันเลยค่ะ

จุดประสงค์ของบลัชออน คือ การเพิ่มสีเลือดฝาดให้กับพวงแก้ม ให้ใบหน้าดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ดังนั้นคุณจึงควรเลือกเฉดสีที่เข้ากับคุณได้มากที่สุด โดยมีรายละเอียดดังนี้เลยค่ะ

อันดับแรกที่ต้องคำนึง คือ "เฉดสี" แนะนำให้เลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีเลือดฝาดของคุณนะคะ ซึ่งถ้าใครไม่รู้ว่าสีเลือดฝาดของตัวเองเป็นอย่างไร ให้ลองหยิกแก้มตัวเองเบา ๆ ดูค่ะ สีที่เห็นก็คือสีเลือดฝาดของคุณ จากนั้นให้คำนึงถึงความแน่นของเม็ดสี บลัชออนแบบน้ำที่ดีควรจะมีเม็ดสีที่แน่น แม้ใช้เพียงนิดเดียวก็สามารถเกลี่ยได้ทั่วทั้งพวงแก้ม อย่างไรก็ตามต้องระวังปริมาณที่ใช้ด้วยนะคะ เพราะถ้ามากเกินไปก็จะดูไม่เป็นธรรมชาติเอาได้


บลัชออนแบบน้ำมีเนื้อที่บางเบา ทำให้สามารถเพิ่มความเข้มได้ง่าย จึงควบคุมการใช้ได้ง่ายกว่าแบบฝุ่น ทำให้เหมาะกับมือใหม่หัดแต่งหน้าที่ยังไม่แม่นยำเรื่องการกะความเข้มของบลัชออน อย่างไรก็ตามก็ต้องระวังการลงพลาดด้วยนะคะ เพราะบลัชออนสูตรน้ำถ้าลงผิดไปแล้วจะแก้ยากกว่าแบบฝุ่น

นอกจากเฉดสีที่ใกล้เคียงกับเลือดฝาดเรายังสามารถเลือกใช้โทนสีอื่น ๆ ได้อีกค่ะ โดยให้คำนึงจาก "สีผิว" ของคุณ หากคุณมีผิวโทนเหลือง ให้ซื้อบลัชออนที่มีสีโทนส้มหรือจะเป็นชมพูอมส้มก็ได้ เพราะจะเข้ากับสีผิวได้ดีกว่า ในทางตรงกันข้ามหากคุณมีผิวโทนชมพูให้ใช้บลัชออนโทนสีชมพูแทนค่ะ


นอกจากนี้สีของบลัชออนยังทรงผลต่อเมคอัพลุคหรือภาพลักษณ์ของคุณอีกด้วยค่ะ โดยผู้เขียนขออนุญาตแบ่งออกเป็น 3 โทนสีใหญ่ ๆ ดังนี้

  • โทนแดง : ให้ความรู้สึกเซ็กซี่ แนะนำสำหรับวันออกเดท
  • โทนส้ม : ช่วยให้ใบหน้าดูสดใสแลดูมีชีวิตชีวา สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้
  • โทนชมพู : ช่วยให้คุณดูเป็นสาวน่ารักอ่อนหวาน เหมาะกับคนที่ต้องการลุคใส ๆ

อีกหนึ่งในคุณสมบัติที่คุณต้องให้ความสำคัญ คือ "การติดทนนาน" นั่นเองค่ะ เพราะคงไม่มีใครอยากให้เมคอัพเลือนหายระหว่างวันจนต้องมานั่งเติมบ่อย ๆ หรอกใช่ไหมคะ ซึ่งก่อนอื่นต้องบอกว่าบลัชออนแบบน้ำก็ค่อนข้างจะติดทนอยู่แล้วค่ะเมื่อเทียบกับแบบฝุ่น แต่บางรุ่นก็เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีกด้วยการเป็นสูตร Tint ทำให้บลัชออนติดทนนาน แม้จะถูกเหงื่อหรือการซับหน้าหลาย ๆ ครั้งก็ยังเอาอยู่


เกร็ดน่ารู้ : หากคุณเป็นคนผิวมัน ประสิทธิภาพของบลัชออนก็จะลดลงไปอีกนะคะ เพราะน้ำมันทำให้บลัชออนเลือนหายได้ง่าย

แม้จะมีเนื้อที่เหลวเหมือนน้ำเหมือนกัน แต่แต่ละรุ่นมีความหนืดไม่เท่ากันค่ะ ซึ่งความแตกต่างเหล่านี้ส่งผลต่อความยากง่ายในการเกลี่ย นอกจากนี้บลัชออนแบบน้ำยังมีหลายแพ็กเกจอีกด้วย เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเอง

เพราะจุดเด่นของบลัชออนแบบน้ำ คือ ให้ฟินิชลุคที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมือนเลือดฝาดออกมาจากภายใน ดังนั้นเนื้อบลัชจึงควรบางเบา เพื่อช่วยให้เกลี่ยง่าย สีกระจายตัวได้ดีและดูสม่ำเสมอเท่ากันทั้งพวงแก้ม


ในทางตรงกันข้ามถ้าเนื้อค่อนข้างหนืดจะทำให้เบลนด์สียาก ต้องอาศัยเทคนิคถึงจะเกลี่ยให้สีกระจายตัวได้ดี ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้มือใหม่เลือกใช้นะคะ

หลายคนมักจะไม่ให้ความสำคัญกับแพ็กเกจของบลัชออนเท่าไร เพราะคิดว่าไม่มีผลต่อฟินิชลุค แต่จริง ๆ แล้วกลับมีผลต่อการใช้งานค่ะ เพราะถ้าแพ็กเกจไม่เหมาะกับการใช้งานของคุณก็จะทำให้คุณไม่อยากใช้ต่อ นอกจากนี้ยังมีผลต่อเรื่องความสะอาดอีกด้วยนะคะ


แพ็กเกจส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์นี้จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ แบบหัวแปรงพู่กัน ซึ่งคล้ายกับยาทาเล็บ และแบบหัวลิปสติกจิ้มจุ่ม หลาย ๆ แบรนด์ก็ได้ผลิตแพ็กเกจแบบนี้ออกมา โดยหัวแปรงแบบนี้จะช่วยให้ควบคุมปริมาณของบลัชได้ง่าย และสามารถแต้มบนแก้มได้โดยตรง จึงเหมาะกับมือใหม่ที่เพิ่งใช้บลัชแบบนี้


อีกแพ็กเกจหนึ่งที่ค่อนข้างหลากหลาย คือ แบบหัวปั๊มค่ะ ข้อดีของแบบนี้คือตัวบลัชออนจะถูกเก็บรักษาให้สะอาดอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณไม่ต้องกังวลกับสิ่งสกปรก แต่ข้อเสีย คือ ควบคุมปริมาณที่จะใช้ยาก เนื่องจากปั๊มครั้งหนึ่งเนื้อบลัชจะออกมาเยอะ จึงต้องระมัดระวังในการใช้นิดนึงค่ะ

หลังจากที่ผู้เขียนทำการค้นคว้าหาข้อมูลมาพบว่ามีหลายรุ่นเลยค่ะที่น่าสนใจและคนใช้กันเยอะ ซึ่งจะมีรุ่นไหนบ้าง ตามอ่านได้จากด้านล่างนี้เลยค่า

เริ่มต้นกันด้วยบลัชออนแบบน้ำจาก Three มีเนื้อแบบออยล์เจล ช่วยให้เกลี่ยง่ายละมุนไปกับผิว เม็ดสีแน่นและสม่ำเสมอ มีนวัตกรรม Glossy Crystal Gel ช่วยให้พวงแก้มแลดูอ่อนเยาว์ พร้อมช่วยบำรุงผิวพรรณด้วยโบทานิคอล ออยล์ ที่รวมสารสกัดจากธรรมชาติทั้ง 8 ชนิด เช่น Tea Seed, Argan และ Jojoba โดยมีหลายโทนสีให้เลือกซื้อ ลูกค้าที่ใช้จริงต่างบอกว่าโทนสีสวยเป็นธรรมชาติ ไม่เหนอะหนะ ระหว่างวันไม่เป็นคราบ


เกร็ดน่ารู้ : รุ่นนี้สามารถใช้เป็นลิปสติกได้อีกด้วยค่ะ

อีกหนึ่งบลัชออนแบบน้ำที่ได้รับความนิยมไม่แพ้อันดับอื่น ๆ ตัวนี้สามารถใช้ได้ทั้งแก้มและปากค่ะ มีเนื้อที่ค่อนข้างเหลว เกลี่ยง่าย เบลนด์สีได้ดี เม็ดสีชัดเจน สามารถ Buildable ได้ ให้ฟินิชลุคแบบ Soft Matte ใครผิวแห้งก็สามารถใช้ได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องคราบ ใช้แล้วแก้มดูระเรื่อเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ระหว่างวันยังไม่ต้องเติมบ่อย ๆ อีกด้วยค่ะ แต่ข้อเสียคือราคาค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม 1 แท่งสามารถใช้ได้นานอยู่ค่ะ ถือว่าคุ้มค่าในระดับหนึ่ง คนที่เคยใช้ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เป็นของที่ต้องซื้อซ้ำ"

เมื่อพูดถึงบลัชออนจะไม่มีแบรนด์นี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาโด่งดังเรื่องเฉดสีที่สวยเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ช่วยสร้างแสงตกกระทบ เพิ่มมิติให้กับใบหน้าด้วยชิมเมอร์เล็กละเอียด พร้อมบำรุงผิวด้วย Tamanu Oil เพื่อให้ผิวดูชุ่มชื้นมีสุขภาพดีมากขึ้น โดยมีเนื้อที่เนียนละเอียด เนียนลื่นไปกับผิว สีชัดเจน สามารถ Buildable ได้ ระหว่างวันไม่เป็นคราบและติดทนนาน นอกจากนี้แพ็กเกจยังทนทาน ตกไม่แตกอีกด้วยค่ะ

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจไม่แพ้อันดับอื่น ๆ เลยค่ะ รุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่คุณภาพใกล้เคียงกับแบรนด์ระดับ Hi-end แต่มีราคาย่อมเยา เนื้อเนียนละมุน ไม่เหนอะหนะ ผสมชิมเมอร์เล็กน้อยเพื่อช่วยเพิ่มแสงตกกระทบให้กับพวงแก้ม แลดูมีสุขภาพดีมากขึ้น มีหลายโทนสีให้เลือกซื้อ ซึ่งทุกสีเป็นสีที่เข้ากับสีผิวของคนไทยได้ ติดทนนานในระดับหนึ่ง แต่หลายคนบ่นว่ากดออกมาครั้งหนึ่งได้เนื้อเยอะเกินไป แนะนำให้ควบคุมน้ำหนักการกดนิดนึงนะคะ อย่ากดปั๊มจนสุดนิ้ว

มาต่อกันด้วยบลัชออนสูตรน้ำที่อยู่คู่กับสาวไทยมานาน เพราะมีโทนสีให้เลือกหลายสี มีความเป็นธรรมชาติสูง ใครที่เป็นสายแต่งหน้าลุค No Make Up ต้องชื่นชอบค่ะ ทั้งยังสามารถใช้ทาได้ทั้งแก้มและปาก เนื้อบลัชเหลวเกลี่ยง่าย สีกระจายได้ดี (แต่ต้องรีบเกลี่ยนิดนึงนะคะ) ระหว่างวันไม่เป็นคราบ และติดทนนาน โดย 1 ขวดสามารถใช้ได้นาน ปัจจุบันมี 2 ไซซ์ให้เลือกซื้อ ได้แก่ ขนาดทดลอง และขนาดจริง

แค่เห็นราคาก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ แถมรุ่นนี้ยังสามารถทาได้ทั้งแก้มและปากอีกด้วย โดยมีเนื้อแบบเจลที่มีความเหลวในระดับหนึ่ง ทำให้เบลนด์สีได้ง่ายขึ้น โทนสีเป็นธรรมชาติ ใช้แล้วแก้มดูระเรื่ออย่างคนมีสุขภาพดี เหมาะกับผู้ที่แต่งหน้าลุคใส ๆ ระหว่างวันไม่เป็นคราบ ไม่ต้องคอยเติมบ่อย ๆ (แบรนด์เคลมว่าติดทนนาน 8 ชั่วโมง) โดย 1 ขวดสามารถใช้ได้นาน ทำให้รุ่นนี้กลายเป็นไอเทม Must Have สำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้าเลยค่ะ

แม้จะชื่อครีมบลัช แต่เนื้อของบลัชออนรุ่นนี้ค่อนข้างเหลวค่ะ เกลี่ยง่าย ไม่จับตัวเป็นก้อน เบลนด์ให้สีกระจายตัวได้ดี มีหลายโทนสีให้เลือกซื้อ เข้าได้กับทุกสีผิว หัวแปรงเป็นแบบพู่กันทำให้ควบคุมการใช้ได้ง่าย หลายคนที่ใช้จริงต่างรีวิวว่าเนื้อบางเบา ไม่เหนียวผิว แต้มนิดเดียวก็เกลี่ยได้ทั่วทั้งแก้ม ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ ระหว่างวันต้องมีเติมบ้าง แต่เมื่อเทียบกับคุณภาพและราคาแล้วถือว่าคุ้มค่าไม่น้อยเลยค่ะ ใครที่กำลังมองหาบลัชออนแบบน้ำราคาย่อมเยา แนะนำเลย

เข้าสู่อันดับ 3 สุดท้ายของเรา สำหรับรุ่นนี้ต้องบอกเลยว่าฮิตหนักมากในกลุ่มของวัยรุ่นไทยค่ะ เพราะคุณภาพคุ้มค่ากับราคา แถมยังใช้ได้ทั้งแก้มและปากอีกด้วย ซึ่งหลายคนรีวิวไว้ว่าเนื้อเนียนละมุน เกลี่ยง่ายแม้เป็นมือใหม่หัดแต่งหน้า สีชัด เบลนด์แล้วแนบเนียนไปกับผิว พวงแก้มแลดูมีเลือดฝาดอย่างเป็นธรรมชาติ ให้ฟินิชลุคค่อนข้างแมตต์ ติดทนนานในระดับหนึ่ง แต่ถ้าคุณมีผิวมันมากอาจจะต้องเติมระหว่างวันบ้างนะคะ

มาถึงรุ่นที่เป็นที่นิยมอีกตัว สำหรับรุ่นนี้สามารถใช้ทาได้ทั้งแก้มและปากเหมือนกันค่ะ แต่เนื้อจะบางเบากว่า ค่อนข้างโปร่งแสง เกลี่ยง่าย ไม่แห้งไวจนเกินไป เน้นเพิ่มสีเลือดฝาดให้กับพวงแก้ม จึงเหมาะกับเมคอัพลุคแบบ No Make Up ถ้าหน้ามันมากระหว่างวันอาจมีเลือนหายบ้าง แต่ถ้าเป็นสำหรับสภาพผิวอื่น ๆ ถือว่าติดทนนานมากเลยค่ะ ทำให้ใครหลายคนยกให้รุ่นนี้เป็นหนึ่งในบลัชออนคู่กายเลยทีเดียว

และแล้วก็มาถึงอันดับที่หลายคนรอคอย รุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งแก้มและปาก พร้อมช่วยบำรุงด้วยสารสกัดจากสาหร่ายทะเล 2 ชนิด ได้แก่ สาหร่ายทะเลสีน้ำตาลและสีน้ำเงิน มีโทนสีให้เลือกมากมายถึง 20 เฉดสี ไม่ว่าจะแต่งหน้าแบบไหนก็เข้าได้กับทุกเมคอัพลุค เนื้อเนียนละมุนเบลนด์ง่ายไม่ตกร่อง เม็ดสีแน่น ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ ติดทนปานกลาง ใครหน้ามันต้องเติมระหว่างวันบ้าง แต่เมื่อเทียบราคาแล้วยังถือว่าคุ้มค่าอยู่ค่ะ หลายคนจึงเลือกใช้

แม้จะมีวิธีการใช้ที่ง่ายอยู่แล้ว แต่เพื่อป้องกันการพลาด แนะนำให้ศึกษาไว้ก่อนจะดีกว่านะคะสาว ๆ

สาวที่แต่งหน้าอยู่แล้วคงทราบลำดับการลงเครื่องสำอางต่าง ๆ กันอยู่แล้วใช่ไหมคะ บลัชออนแบบน้ำก็มีลำดับการลงเหมือนแบบฝุ่นเลยค่ะ นั่นคือ ทาหลังจากลงรองพื้น (แนะนำให้ใช้แบบเนื้อครีมหรือเนื้อลิควิดนะคะ) แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อยคือ "ห้ามทาทับเครื่องสำอางแบบฝุ่น" ไม่ว่าจะเป็นแป้งเซ็ตติ้งหรือแม้แต่แป้งผสมรองพื้นก็ตาม เพราะอาจจะเป็นคราบได้ค่ะ และสีอาจจะไม่สม่ำเสมอ เวลาใช้จึงควรระมัดระวังในจุดนี้ด้วยนะคะ

หนึ่งในปัญหาของสาว ๆ ส่วนใหญ่คือ "เบลนด์สียังไงให้ดูเป็นธรรมชาติ" แนะนำให้แต้มบลัชออน 3 จุดตามตำแหน่งในรูปเลยค่ะ จากนั้นให้เกลี่ยเบา ๆ อย่างรวดเร็ว เพราะเนื้อบลัชแห้งไว ไม่อย่างนั้นสีจะดูกระดำกระด่าง ทำให้ฟินิชลุคดูไม่สวยงาม หรือถ้าคุณใช้บลัชออนเยอะ ให้ใช้แปรงหรือฟองน้ำเกลี่ยแทนจะรวดเร็วและสะดวกมากกว่าค่ะ


เกร็ดน่ารู้ : ฟองน้ำกับแปรงอาจจะกินเนื้อบลัชไปบางส่วนนะคะ ทำให้ต้องใช้บลัชออนปริมาณเยอะนิดนึง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ วันนี้มีความรู้และเทคนิคไม่น้อยเลยทีเดียว ผู้เขียนหวังว่าเพื่อน ๆ จะเลือกซื้อบลัชออนแบบน้ำได้ง่ายขึ้นหลังจากที่อ่านจบนะคะ โดยสิ่งที่ต้องคำนึงหลัก ๆ มีไม่เยอะเลย เพียงแค่เราคำนึงถึงเฉดสีให้เข้ากับสีผิวหรือเมคอัพลุคของเรา เลือกบลัชออนที่มีเนื้อบางเบาเกลี่ยง่าย และแพ็กเกจที่เหมาะกับการใช้งานของเรามากที่สุด แค่นี้คุณก็จะได้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวคุณแล้วค่ะ


สุดท้ายนี้ก่อนจะจากกันผู้เขียนฝากทิ้งท้ายเอาไว้สักนิดว่า บลัชออนสูตรน้ำมีปริมาณน้ำมันมากกว่าแบบฝุ่น หากเปิดแล้วและทิ้งไว้นาน ๆ อาจจะแห้งได้นะคะ เพื่อน ๆ จึงต้องระวังตรงจุดนี้ด้วย