6 อันดับ หูฟังเบสหนัก รุ่นไหนที่คนใช้เยอะที่สุด อัพเดทล่าสุดปี 2567

หากคุณกำลังมองหา คูปองส่วนลดมากมาย มีให้เลือกหลากหลาย ส่งฟรี ส่งไว เก็บเงินปลายทาง ช้อปออนไลน์ 24 ชั่วโมง ช้อปได้ที่ร้านค้าแนะนำของเรา
คุณภาพเจ๋ง ราคาที่ไม่แพง เราขอแนะนำ หูฟังเบสหนัก  สินค้ากับร้านที่เราแนะนำ  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง หูฟังเบสหนัก  ไป ราคาถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ราคาจะลดลงอีกลองเข้าไปดูที่ร้านได้ เลยจัดไป ได้รับสินค้าเรียบร้อย ส่งทางไปรษณีย์หรือไม่ก็ทางหน่วยจัดส่ง คุณภาพเกินราคา ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     
คุณรู้หรือไม่ ? นอกจากหูฟังเบสหนัก มีเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้ออีกมากมายไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ สี ขนาด ราคา วัสดุที่ใช้และน้ำหนักซึ่งปั จจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะ ซึ่งมีทั้ง หูฟังเบสหนัก และการใช้ของแต่ละบุคคล ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหา หูฟังเบสหนัก วันนี้ทางเราได้จัด แนะนำ หูฟังเบสหนักยี่ห้อดีต่อใจมาให้คุณแล้ว!

สำหรับกลุ่มคนที่รักเสียงเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อถึงจุดหนึ่งความสามารถของหูฟังที่แถมมากับสมาร์ทโฟนก็คงไม่เพียงพอต่อความต้องการของคุณอย่างแน่นอน ทำให้คุณต้องไปตามหา “หูฟังเบสหนัก” ที่สามารถเก็บบีทเพลงได้ละเอียดกว่ามา เพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงที่มากขึ้น แต่ปัญหาต่อมาก็คือ “เลือกอย่างไร” และ “ยี่ห้อไหนดี” เพราะทุกวันนี้มีหูฟังอยู่มากมายหลายแบบ หลายแบรนด์ให้เลือกเลย แถมข้อมูลก็หาค่อนข้างยากอีกด้วย ทำให้เพื่อน ๆ ต้องตั้งกระทู้ถามเองบ้าง หรือไปทดสอบถึงที่ร้านเองบ้าง จึงกลายเป็นทำคุณให้เสียเวลามากขึ้นอีก ในวันนี้ ทีมงานของเราจึงรวบรวมข้อมูลมาเป็นตัวช่วยให้ทุกคนได้อ่านกันตรงนี้แล้วค่ะ

ลำดับแรกเราจะพาคุณไปเรียนรู้ “วิธีการเลือก” กันก่อน จากนั้นก็ต่อด้วย “10 อันดับสินค้า” ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งคุณสมบัติ, ราคาและรีวิวมาแล้ว เพื่อที่จะได้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อหูฟังที่เหมาะกับตัวคุณเองมากที่สุดไปใช้งานกัน เนื้อหาแต่ละส่วนจะน่าสนใจสักแค่ไหน ตามไปอ่านกันเลยค่ะ!
ในปัจจุบัน แบรนด์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ได้พัฒนาหูฟังออกมาหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีดีไซน์และคุณสมบัติที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งานและแนวเพลงที่ฟัง ทำให้ขอบเขตของราคานั้นค่อนข้างกว้าง สิ่งแรก ๆ ที่ควรจะรู้เลย คือ “ความต้องการของตัวเอง” และ “แนวเพลงที่ตัวเองชอบ” เรามาดูหลักในการเลือกจากด้านล่างนี้กันเลย
ต้องบอกก่อนเลยว่า รูปทรงของหูฟังนั้นมีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็เหมาะสมกับการใช้งานที่ต่างกัน โดยประเภทที่เหมาะกับการฟังดนตรีเบสหนักก็คือ แบบ “In-Ear” เพราะมีรูปทรงเว้าโค้งสามารถสอดรับกับช่องรูหูได้พอดี ทำให้แก้วหูได้ยินเสียงบีทชัดเจน ในขณะที่ส่วนของจุกหูฟัง (มักทำมาจากซิลิโคน) ก็จะช่วยกักเก็บเสียงให้อยู่ในหู ไม่ให้เล็ดลอดออกมาข้างนอกได้ง่าย
หูฟังประเภทนี้มักมีจุกซิลิโคนให้เลือกใช้หลายขนาด ดังนั้น เวลาใช้งานต้องอย่าลืมคำนึงถึงจุกนี้ด้วยว่า ขนาดของมันพอดีกับช่องหูเราไหม เพราะถ้าคุณภาพเสียงดี แต่กลับยึดเกาะช่องหูได้ไม่กระชับ ทำให้ต้องคอยระแวงตลอดการใช้งานว่าจะหลุดออกหรือไม่ จะได้ยินเสียงรบกวนภายนอกได้หรือเปล่า กลายเป็นอรรถรสในการฟังเพลงก็จะเสียไป สุดท้าย ก็ต้องเสียเงินซื้อชิ้นใหม่อยู่ดี
สมัยก่อน เรามักจะเห็นคำว่า “Heavy Bass” หรือ “Base Boost” เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ใช้ภายในบ้านอย่างเช่น ลำโพงเธียเตอร์ เพื่อเพิ่มความสมจริงในการรับชมมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เกิดแนวคิดพัฒนาหูฟังให้มีคุณสมบัติใกล้เคียงดูบ้าง ทำให้การฟังเพลงทุกท่วงทำนองของคุณมีคุณภาพมากขึ้น เสมือนได้ฟังสด ๆ ในห้องอัด แต่คำถามต่อมาคือ “ดูอย่างไรว่าหูฟังไหนให้เสียงเบสหนัก”
หูฟังทุกรุ่นจะมีย่านความถี่เสียง (Frequency Response) ที่สามารถตอบสนองได้ โดยปกติจะแสดงค่าเป็นตัวเลข Hz – kHz เช่น 13-20 kHz ซึ่งเป็นตัวบอกว่าหูฟังหรือลำโพงตัวนั้นสามารถเล่นเสียงย่านไหนได้บ้าง ถึงแม้มีค่าย่านเสียงต่ำที่น้อยมาก ก็ไม่ได้ความว่าจะเล่นเสียงเบสได้หนักแน่นมากกว่า แต่สิ่งที่เราใช้เป็นตัวตัดสิน คือ ไดรเวอร์ (Driver) หมายถึง ดอกลำโพงที่ประกอบอยู่ในตัวหูฟังที่เราจะแนะนำกันในหัวข้อต่อไปค่ะ
หูฟังทุกรุ่นต้องมีไดรเวอร์เป็นตัวขับเคลื่อนในการทำงาน ในปัจจุบันมีด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ Dynamic และ Balanced Armature (BA) ซึ่งแต่ละประเภทก็ให้คุณภาพของเสียงเบสที่แตกต่างกัน จึงเหมาะกับความชอบและการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง โดยมีรายละเอียดตามด้านล่างนี้เลยค่ะ
ไดรเวอร์แบบนี้ประกอบไปด้วยแม่เหล็ก, Voice Coil และ Diaphragm โดยการทำงานจะเริ่มจากการที่ตัวแม่เหล็กส่งสัญญาณไฟฟ้าไปที่ Voice Coil จากนั้น Coil จะทำการเปลี่ยนเป็นสัญญาณเสียงแล้วส่งต่อไปที่ Diaphragm ซึ่งเป็นเสมือนตัวกำเนิดการสั่นไหว ก่อให้เกิดเสียงออกมาในที่สุด ไดรเวอร์ประเภท Dynamic นี้จะมีลักษณะพิเศษที่สามารถสร้างเสียงเบสได้ดีหนักแน่นและถูกบิดเบือนน้อยมาก
สำหรับไดรเวอร์ Balanced Armature (BA) จะประกอบไปด้วยแม่เหล็ก, Voice Coil, Diaphragm, Armature และ Drive Pin ซึ่งมีโครงสร้างในการทำงานโดยเริ่มจาก แม่เหล็กส่งสัญญาณต่อกันไปจาก Voice Coil ไป Armature และไปยัง Drive Pin จากนั้น ก็ส่งต่อไปอีกที่ Diaphragm เพื่อให้เกิดเสียง ซึ่งไดรเวอร์ประเภทนี้จะสร้างย่านเสียงกลางและเสียงสูงได้ดี แต่จะเกิดการบิดเบือนของเสียงได้มากกว่า
หลายคนคงชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ แต่เวลาออกเดินทางเราต้องเน้นความสะดวกเป็นหลัก จะมานั่งแก้สายหูฟังที่พันกันทุกครั้งที่หยิบออกมาจะทำให้หงุดหงิดเปล่า ๆ

ยุคนี้แล้วผมขอแนะนำหูฟังไร้สาย True Wireless ซึ่งแบรนด์ที่ผมชื่นชอบส่วนตัวก็คือ BeoPlay หูฟังสัญชาติเดนมาร์ค ที่ทั้งเสียงดีและที่สำคัญ ดีไซน์สวยมาก ๆ ฟังเพลงได้นานหลายชั่วโมง เหมาะกับการเดินทางยาว ๆ และเมื่อเราเก็บหูฟังใส่กล่อง ตัวกล่องก็จะชาร์จหูฟังให้เราอีก 2-3 รอบ เรียกได้ว่าใช้ได้หลายวันเหมือนกันสำหรับคนที่กลัวว่าจะต้องมานั่งชาร์จบ่อย ๆ

นอกจากหูฟังเบสหนักเอาใจคนที่ชอบเสียงเบสแล้ว มายเบสท์ยังมีบทความแนะนำหูฟังอีกหลายประเภท ที่จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงหรือสื่อบันเทิงผ่านไฟล์เสียงที่คมชัด และสามารถเพลิดเพลินโดยไม่มีเสียงรอบข้างมารบกวน ใครที่ชอบฟังก์ชันแบบไหน เข้าไปเลือกได้ที่บทความข้างล่างนี้ได้เลย

ใครที่กำลังรออ่านหัวข้อนี้อยู่ ได้เวลาที่คุณจะได้ชมข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจกันแล้วค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่า ควรเลือกโดยอ้างอิงจากคำแนะนำที่เรานำเสนอ ควบคู่ไปกับการพิจารณาอันดับต่าง ๆ เพื่อให้ได้สิ่งที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด ว่าแล้วก็อย่ารอช้า ไปอ่านกันเลยค่ะ
หูฟังที่เพียบพร้อมไปด้วยสารพัดฟังก์ชันเพื่อการดื่มด่ำกับเสียงเพลง เริ่มจากเทคโนโลยี DualCoil™ ที่เหนือกว่าไดรเวอร์แบบ Dynamic ทั่วไปตรงที่มี Coil 2 ตัวที่ทำงานแยกกัน เพื่อการนำเสนอเสียงแต่ละย่านได้อย่างสมจริงในระดับ Hi-Res ในเซ็ตมีตัวกรองเสียงที่ใช้ประกอบส่วนปลั๊กเสียบหู โดยหนึ่งในนั้นคือ Bass Filter ทำหน้าที่เพิ่มมวลให้เสียงย่านเบสหนักแน่นขึ้น

นอกจากนี้ ถ้าใครฟังเพลงแนวอื่นด้วย ก็มีทั้งตัวกรองที่ส่งเสริมการฟังเพลงแจ๊ส หรือแนวอะคูสติกอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีจุกซิลิโคนหลากหลายขนาดพร้อมใช้ เพื่อปรับความกระชับให้เข้ากับหู แต่คงต้องบอกเลยว่า รุ่นนี้ต้องสำหรับคนมีงบสูงเลยค่ะ
ใครที่ตามหาหูฟังเบสหนักที่มีการทำงานผ่าน Bluetooth และ NFC ทำให้การฟังเพลงขณะเดินทางเป็นเรื่องง่ายขึ้น อีกทั้งดีไซน์ยังช่วยปกป้องอุปกรณ์จากเหงื่อและน้ำ จึงถือเป็นรุ่นที่เหมาะกับการออกกำลังกาย นอกจากนี้ จุกหูฟังซิลิโคนที่สอดรับกับช่องหูพอดียังช่วยให้ใส่สบายและไม่เคลื่อนหลุดง่าย

ฟังเสียงจากหลายคนที่ได้ลองใช้รุ่นนี้พบว่าเสียงเบสนุ่มและแน่น เสียงกลางคมชัดและละเอียด แม้ฟังนาน ๆ ก็ไม่อึดอัดในหู เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฟังเพลงแนวทั่ว ๆ ไป แต่รุ่นนี้มีข้อเสียตรงที่ไม่ตัดเสียงรบกวนจากภายนอกค่ะ
พูดถึงหูฟังแล้ว อีกหนึ่งแบรนด์ที่หลายคนไว้วางใจก็คือ Sony นั่นเองค่ะ สำหรับรุ่นนี้มีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยี Powered Bass Duct++ มอบเสียงเบสที่ลึกและทรงพลัง พร้อมไดรเวอร์ขนาด 12 มม. เพื่อคุณภาพเสียงที่สูง แม้เปิดระดับเสียงสูงสุดก็ไม่ถูกบิดเบือน ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 4Hz-24,000Hz เลย มาพร้อมกับ Inline Remote และไมค์สำหรับการสนทนา

ด้านการใช้งานจริง คุณภาพเสียงเบสดีเยี่ยม เหมาะกับการฟังเพลงแนว EDM, Rock หรือ Hip-Hop ราคาไม่สูงมาก แถมยังอัดแน่นไปด้วยคุณภาพอย่างนี้ ถือเป็นอีกรุ่นที่ได้รับความนิยมไม่น้อยเลยค่ะ
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจด้วยการออกแบบตัวเฮ้าซิ่งให้สวยงาม สวมใส่สบายและปรับได้ง่าย พร้อมหัวแจ๊คที่โค้ง 90 องศา เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยถนอมสายหูฟังไปในตัวด้วย และยังมีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนรอบข้าง คุณจึงดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นรุ่นที่โดดเด่นด้านเสียงกลาง แต่มีเสียงเบสแบบมีอิมแพคที่ลงตัวพอดี

ผู้ที่ใช้จริงต่างรีวิวว่าเสียงเบสคมชัด ได้ยินเป็นลูก ๆ พร้อมเสียงร้องชัดเจน คุณภาพเสียงค่อนข้างใส แต่ต้องผ่านการเบิร์นหลายชั่วโมงเสียก่อนเสียงจึงเข้าที่เข้าทาง เหมาะกับมือใหม่หรือผู้ที่ฟังเพลงทั่ว ๆ ไป เหมาะฟังเพลงแนวสบาย ๆ แบบ Jazz หรือ pop
อีกหนึ่งรุ่นที่นิยมกันเพราะมีราคาย่อมเยามาก ๆ มือใหม่หลายคนเลยลองซื้อเป็นชิ้นแรก แต่เห็นอย่างนี้คุณสมบัติไม่ถูกตามราคาเลยค่ะ เพราะมีเทคโนโลยี JBL Pure Bass และไดรเวอร์ขนาดใหญ่ ช่วยเพิ่มความคมชัดให้กับเสียงเบส แม้ว่าจะตอบสนองความถี่เหมือนรุ่นทั่วไป แต่ก็เหมือนฟังเพลงอยู่ในฮอล์คอนเสิร์ตเลย มาพร้อมกับรีโมทและไมค์ ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น

เห็นคุณสมบัติแบบนี้ หลายคนคงสงสัยว่าใช้ดีจริงไหม ซึ่งจากรีวิวของหลายคนต่างบอกว่าคุณภาพเสียงดีค่ะ ฟังเพลงสนุก แต่ต้องผ่านการเบิร์นสักระยะหนึ่งก่อนนะคะ เสียงที่แท้จริงถึงจะออกมา
Sony รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานสำหรับขณะเดินทางโดยเฉพาะ แถมยังมาพร้อมไมโครโฟนอินไลน์ที่ใช้งานสะดวก ทำให้คุณรับสายได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดรับ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เพื่อควบคุมการฟังเพลงได้อีกด้วย ซึ่งมีไดรเวอร์ขนาดใหญ่ เพื่อเล่นเสียงแบบ Dynamic และสามารถตอบสนองความถี่ได้กว้าง ให้เสียงใส และเสียงเบสแน่น

เป็นอีกตัวที่ให้คุณภาพเสียงเบสนุ่มลึก เก็บรายละเอียดเมโลดี้ได้ดี บีทชัดเจน เน้นฟังสบาย ทั้งยังมีจุกซิลิโคนหูฟังเป็นแบบไฮบริด ที่นิ่ม สวมใส่สบาย ฟังทั้งวันก็ไม่รู้สึกเจ็บหู และมีมาให้เลือกใช้ 3 ขนาดค่ะ
อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ ด้วยการดีไซน์ที่ทั้งโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์และรองรับการใช้งานได้ดี สวมใส่สบายและไม่เคลื่อนหลุดง่าย ๆ มาพร้อมกับมีไดรเวอร์แบบ Dynamic ขนาดใหญ่ จึงสามารถตอบสนองความถี่ได้กว้าง มีรีโมทและไมโครโฟนในตัวเพื่อใช้ควบคุมการเล่นเพลงและรับสายสนทนาได้สะดวกสบายมากขึ้น จุดเด่น คือ ปุ่ม EQ ปรับเบส ที่เปิดใช้แล้วเสียงเบสจะยิ่งเพิ่มพลังขึ้นมาอีกขั้นเลย

มาดูคุณภาพเสียงกันบ้าง คนที่ใช้จริงบอกว่าเก็บเสียงทุกเครื่องดนตรีมาให้ได้ยินหมด พร้อมเสียงเบสหนักแน่น ให้ Deep Bass ที่ชัดเจน มีแรงปะทะที่ดีมาก ๆ และเก็บตัวไว เหมาะกับการฟังเพลงแนว Rock, Metal หรือ EDM ได้เยี่ยมทีเดียว
ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยค่ะ เพราะหูฟังจาก SHURE รุ่นนี้เขามีจุดเด่นคือถูกดีไซน์ให้มีถึง 4 ไดรเวอร์ ให้คุณภาพเสียงดี เบสแน่น ไม่บวม มาเป็นลูก ๆ ชัดเจนและสมจริง ตอบสนองความถี่ตั้งแต่ 15 Hz–20 kHz รองรับเบสลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และให้เสียงสูงที่มีรายละเอียดชัดเจนด้วย นอกจากนี้ ยังล็อกเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีเยี่ยม ให้คุณโลดแล่นในโลกของดนตรีอย่างเต็มที่เลย

มีรูปทรงเรียวยาวเข้ากับสรีระช่องหูได้กระชับ ไม่หลุดง่าย และช่วยให้ใส่สบาย แถมมาพร้อมจุกยางหลายไซซ์ หลายแบบให้เลือกใส่ ครอบคลุมแทบทุกลักษณะของช่องหู ฟังเพลงต่อเนื่องได้หลายชั่วโมงโดยไม่รู้สึกเจ็บ แต่รุ่นนี้ดูราคาแล้วต้องบอกเลยว่า Hi-End จริง ๆ ค่ะ
แม้จะมีราคาย่อมเยา แต่คุณสมบัติของรุ่นนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย ด้วยเอกลักษณ์ของ JBL ทำให้ได้เสียงที่มีคุณภาพ มาพร้อมกับดีไซน์มีน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ตัวแจ็คถูกออกแบบมาดี ทนทานแม้ถูกแรงกระชาก อีกทั้งยังมีจุกหูฟังให้เลือกถึง 3 ขนาด มาพร้อมรีโมทกับไมโครโฟน โดยสามารถทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการได้ทั้ง Andriod และ iOS

หลายคนที่ลองใช้รุ่นนี้แล้วบอกว่าให้คุณภาพเสียงใส กว้าง ลึก พร้อมเบสค่อนข้างดี มีความคมชัด แต่ไม่มากเกินไป เหมาะกับการฟังเพลงทั่ว ๆ ไปและสำหรับผู้ที่เพิ่งลองเล่นหูฟัง ยังไม่กล้าทุ่มเงินซื้อรุ่นแพงมาก ถือว่าคุ้มค่ากับราคาค่ะ
ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย เพราะด้วยไดรเวอร์แบบ Hybrid รวมทั้ง Dynamic และ BA เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้เสียงมีมิติมากยิ่งขึ้น พร้อมตอบสนองความถี่ 18-22000Hz จุกหูฟังมีดีไซน์สอดรับกับช่องหูได้ดี ช่วยให้สวมใส่สบายและไม่เคลื่อนหลุดง่าย มั่นใจได้ว่าได้ยินเสียงเบสชัดเจนเต็มประสิทธิภาพ

แม้รุ่นนี้จะมีราคามีย่อมเยาสุด ๆ แต่หลายคนต่างชูฮกให้ว่าคุณภาพดีเกินราคา เพราะเสียงเบสลึก กระชับและไม่บวม ได้เอกลักษณ์สไตล์มอนิเตอร์ ยิ่งพ้นช่วงเบิร์นคุณภาพเสียงยิ่งดีขึ้น แต่อาจจะเก็บบีทได้ไม่ละเอียดนัก แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วถือว่าเกินคุ้มเลยค่ะ
ใครที่เบื่อหูฟังคู่เดิม อยากลองเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงให้กับตัวเองบ้าง ลองไปหาซื้อรุ่นที่เล่นเบสหนักกันดูนะคะ โดยเลือกตามวิธีที่เราแนะนำและอ้างอิงจากอันดับสินค้าที่น่าสนใจ รับประกันว่าคุณจะลืมหูฟังธรรมดาไปเลย แม้ว่าจะต้องเสียเงินมากกว่าก็ตาม
อย่างไรก็ตาม อย่าลืมคำนึงถึง “รสนิยม” การฟังเพลงของเราด้วย เพราะบางรุ่นเหมาะกับแนว Rock โดยเฉพาะ ในขณะที่อีกรุ่นอาจจะเหมาะกับ Hip-Hop มากกว่าก็ได้ นอกจากนี้ ใครที่ชอบฟังขณะเดินทาง ระวังการเปิดเสียงดังเกินไปนะคะ ทางที่ดีควรซื้อรุ่นที่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวน เพื่อช่วยให้เราไม่ต้องเปิดเสียงเพลงดังกลบ ถือเป็นการถนอมหูอีกวิธีนึงเลยล่ะค่ะ