น้ำยากัดสีผม รุ่นไหนดี 5 อันดับ ที่น่าซื้อ อัพเดทล่าสุดปี 2567

ยืนหนึ่งเรื่องราคาและคุณภาพ ตอบโจทย์ทุกความต้องการ สุดคุ้มกับดีลเด็ดและส่วนลดเพียบที่จัดเต็มมาให้ลูกค้า โปรโมชั่นดีๆทุกวัน มาตรฐานดี การันตีคุณภาพ โปรโมชั่นดี ราคาจริงใจ
มาแล้ว สั่งซื้อได้เลย ราคาที่ไม่แพง เราอยากนำเสนอ น้ำยากัดสีผม  สินค้าทางอินเตอร์เน็ต  ราคาพิเศษส่งให้คุณลูกค้าถึงหน้าบ้าน สั่ง น้ำยากัดสีผม  ไป ถูกจนไม่น่าเชื่อ สินค้าใส่ซองกันกระแทกมาตอนจัดส่งให้ด้วย ส่งเร็วทันใจ คุณภาพเยี่ยมพอดีเห็น ลดราคาลงมาอีก ซื้อเลย สินค้าไม่เสียหาย มีคุณภาพ จัดส่งรวดเร็ว คุณภาพเยี่ยม ได้รับสินค้าแล้วดีใจมาก ตรงตามต้องการในรุป ไม่มีความเสียหายไดๆจากการขนส่ง

     คุณรู้หรือไม่? ว่าปัจจุบันนี้"น้ำยากัดสีผม"นั้นโดยมีทั้ง น้ำยากัดสีผม แล้วแบบนี้คุณจะทราบได้อย่างไรว่าในแต่ละรุ่นหรือประเภทนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร? หรือน้ำยากัดสีผม ยี่ห้อไหนดี? ราคาแพงไหม? ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาน้ำยากัดสีผมดีๆสักรุ่น วันนี้เราได้จัดอันดับ แนะนำ น้ำยากัดสีผมคุณภาพดีมาให้คุณได้เลือกกันแล้วดังนี้

"น้ำยากัดสีผม" ตัวช่วยที่ให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เมื่อคุณต้องการย้อมสีผมด้วยตัวเอง และเรียกได้ว่าเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินไปกับการย้อมผมเองที่บ้าน ในแบบที่ไม่ต้องไปง้อช่างที่ร้านทำผมเลยก็ว่าดี แต่ถึงอย่างนั้น ผลิตภัณฑ์น้ำยากัดสีผมที่วางขายในปัจจุบันก็มีหลายสูตร หลายประเภท ทั้งชนิดครีมและชนิดผง รวมถึงมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ใคร ๆ หลายคนกำลังงุนงง เพราะประสบกับปัญหาในการเลือกซื้อ รวมไปถึงลังเลใจในประสิทธิภาพด้วย


แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะในวันนี้ทีมงานมายเบสท์ได้รวบรวมทั้งข้อมูลวิธีการเลือกซื้อและน้ำยากัดผมคุณภาพดีหลากหลายยี่ห้อ มาแนะนำให้ได้อ่านกัน รวมทั้งได้เปรียบเทียบข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของน้ำยากัดสีผมติดอันดับทั้ง 10 อันดับ มาไว้ให้ทุกคนได้ใช้ประกอบการตัดสินใจอีกด้วย ส่วนน้ำยากัดสีผมชิ้นไหนจะเหมาะกับคุณที่สุด มาศึกษาข้อมูลวิธีการเลือกไปพร้อม ๆ กัน และไปเลือกซื้อกันผ่านช่องทางออนไลน์ง่าย ๆ กันได้เลย

"การกัดสีผม" เป็นวิธีการฟอกเม็ดสีเมลานินของเส้นผม โดยการที่อัลคาไลน์หรือที่เราเรียกว่าด่างจากน้ำยากัดสีจะทำการเปิดเกล็ดผม เพื่อให้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ซึมเข้าไปฟอกเม็ดสี และเนื่องจากปริมาณของเม็ดสีเมลานินที่ลดลงและสีผมที่จางลง ดังนั้น หกหากคุณกัดสีผมก่อน ก็จะช่วยทำให้คุณสามารถย้อมสีผมให้ติดได้ง่ายขึ้น และสนุกไปกับการย้อมสีผมแสนสดใสสีต่าง ๆ มากยิ่งขึ้นค่ะ


แต่ในขณะเดียวกัน ทุก ๆ ครั้งของการกัดสีผมคุณต้องพึงระวังไว้เสมอว่าข้อเสียของน้ำยากัดผม คือ การเปิดเกล็ดผมที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเส้นผม เพราะถึงแม้ว่าจะไม่มีผลกับสีที่ย้อม แต่สำหรับผู้ที่มีสภาพผิวหนังไม่แข็งแรงนัก อาจทำให้เกิดผื่นขึ้น เนื่องจากความรุนแรงและเข้มข้นของน้ำยาได้ค่ะ

หลังจากที่เราพอจะทราบกระบวนการในการทำงานของน้ำยากัดสีผมกันไปเบื้องต้นแล้ว เราก็ไปดูจุดสำคัญ 2 เรื่องหลัก ๆ ที่ควรตรวจสอบในการเลือกน้ำยากัดสีผมเพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งานและปลอดภัยสำหรับเส้นผมของคุณกันต่อเลยค่ะ

เนื่องจากน้ำยากัดสีผมมีด้วยกัน 2 ชนิด คือชนิดครีมและชนิดผง จึงขอแนะนำให้ทำความเข้าใจกับลักษณะเฉพาะของแต่ละชนิด ก่อน แล้วค่อยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ในการใช้ของเราค่ะ

น้ำยากัดสีผมแบบ 'ครีม' เป็นชนิดที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ใช้งานง่ายเพียงแค่ผสมสารตัวที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกัน แล้วนำไปทาลงบนเส้นผม ซึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการให้สีผมจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ผู้ที่มีผมสีดำ สีเข้ม เราขอแนะนำให้เลือกซื้อชนิดครีมค่ะ


นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้วิธีการผสมน้ำยากัดสีผมชนิดผง รวมกับสารสำหรับกัดสีผมตัวที่ 1 และ 2 ก็มีให้เลือกอยู่ด้วยเช่นกัน โดยส่วนประกอบหลักในน้ำยากัดสีผมชนิดผง คือ เพอร์ซัลเฟต เช่น "แอมโมเนียมซัลเฟต" หรือ "โพแทสเซียมซัลเฟต" ซึ่งสารเหล่านี้เป็นตัวช่วยเพิ่มการเกิดปฏิกิริยาเคมีและสามารถกัดสีผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ

มาที่น้ำยากัดสีผมอีกหนึ่งชนิดอย่างชนิด "ผง" ที่ข้อดีคือ ไม่มีการใช้แอมโมเนียฤทธิ์แรงเหมือนในชนิดครีม สามารถใช้งานโดยการนำไปผสมกับเพอร์ซัลเฟตและไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จากนั้นให้ทาลงบนเส้นผม ซึ่งจุดเด่นสำคัญของชนิดผงคือ มีประสิทธิภาพในการกัดสีผมออกได้มากกว่าชนิดครีมค่ะ


แต่เนื่องจากมีพลังในการกัดสีที่รุนแรง จึงเป็นข้อเสียที่สามารถสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเส้นผมและหนังศีรษะได้ ดังนั้น เมื่อเลือกซื้อน้ำยากัดสีผมชนิดผง เราจึงควรเลือกประเภทที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นหรือช่วยดูแลบำรุงเส้นผมผสมเพิ่มเข้ามาด้วยจะดีกว่าค่ะ


อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าน้ำยากัดสีผมชนิดผงจะมีพลังที่รุนแรงในการกัดสีผม แต่ก็ระดับการกัดสีอาจมีความแตกต่างกันได้ โดยจะขึ้นอยู่กับอัตราส่วนในการผสมนั่นเอง ซึ่งเพื่อความมั่นใจว่าน้ำยาที่เราเลือกซื้อ จะให้ผลลัพธ์ที่เราพึงพอใจ แนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับหรือมีการบอกต่อว่ามีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมจะช่วยได้ค่ะ

เพราะหน้าที่หลักของน้ำยากัดสีผม คือการเปิดเกล็ดผมและทำให้สีผมจางลงด้วยการฟอกเม็ดสีเมลานินของเส้นผม แน่นอนว่า เส้นผมก็จะต้องรับภาระหนักจากการทำปฏิกิริยานี้ ดังนั้น การบำรุงเส้นผมหลังจากการใช้น้ำยากัดสีผมจึงเป็นสิ่งจำเป็นค่ะ


โดยในแต่ละเซ็ตของผลิตภัณฑ์น้ำยากัดสีผม ก็จะมีตัวช่วยบำรุงแถมมาให้แตกต่างกันออกไปตามแต่ละผลิตภัณฑ์ แต่อย่างน้อยที่สุด แนะนำให้เลือกสินค้าที่มี "เซรั่ม" บำรุงผม หรือ "ครีมบำรุงผม" รวมอยู่ในเซ็ตผลิตภัณฑ์ด้วยจะดีมากค่ะ แต่ในกรณีที่ไม่ได้มีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแถมมาพร้อมกับเซ็ตน้ำยา ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป จะใช้วิธีหาซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมาเตรียมตัวไว้ล่วงหน้าก็ได้เช่นกันค่ะ

หลังจากกัดสีผม ผมของเพื่อน ๆ อาจจะมีปัญหาแห้งเสียหรือชี้ฟูได้ ดังนั้นเพื่อทำให้เส้นผมสุขภาพดีอยู่เสมอ แชมพูที่ช่วยดูแลเส้นผมและผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจีงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ จะมีวิธีการเลือกและมีผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง เข้าไปดูได้ในบทความข้างล่างนี้เลยค่ะ

หลังจากที่ได้ทราบถึง วิธีการเลือกและข้อดี-ข้อเสียของน้ำยากัดสีผมแต่ละชนิดกันไปแล้ว ลำดับต่อไป เรามาดูว่า 10 อันดับ น้ำยากัดสีผมคุณภาพดีที่จะทำให้ผมของคุณสวย มีสีสันดูสุขภาพดีนั้นมีแบบไหนบ้าง และมียี่ห้อตรงตามที่มองหาหรือไม่ ไปเริ่มกันเลยค่ะ

สำหรับ Schwarzkopf Igora ตัวนี้ตอบโจทย์คนที่มีผมสีเข้มอย่างยิ่งค่ะ เพราะส่วนผสมในน้ำยา มีพลังในการกัดสีสูง ส่วนขั้นตอนการใช้งานก็ง่าย เพียงผสมน้ำยาทั้งสองตัวเข้าด้วยกัน โดยจะให้สีสว่างชัดเจน ดูเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือหลังการกัดจะช่วยทำให้ผมดูมีมิติมากขึ้น และทำให้การไฮไลท์ช่อผมดูมีมิติไปด้วย นอกจากนี้ ตัวน้ำยาเองก็ไม่ทำลายหรือกัดให้เส้นผมแห้งเสีย ทำให้สามารถทำติดต่อกันได้ และยังมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ มาช่วยให้การฟอกสีผมสนุกขึ้นเยอะเลยค่ะ

สำหรับผงกัดสีผมรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ช่วยให้สีผมสวย จนติดใจกันไปตาม ๆ กันค่ะ มีจุดเด่นที่สามารถปรับระดับสีผมได้อย่างรวดเร็วตามชื่อ Quik Blond จริง ๆ ค่ะ โดยสามารถสว่างขึ้นได้มากถึง 8 ระดับ ทั้งยังมีคุณสมบัติที่ช่วยทำให้การย้อมผมหลังการกัด สามารถซึมเข้าสู่เส้นผมและติดได้ดีมากขึ้น เหมาะอย่างยิ่งกับการทำสีผมแบบธรรมดาและการทำไฮไลท์ที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ และในกล่องผลิตภัณฑ์ยังมีถุงมือพร้อมใช้แถมมาให้ เรียกได้ว่ากล่องเดียวครบจบ ไม่ต้องลำบากหาอุปกรณ์เพิ่มให้ยุ่งยากเลยค่ะ

สำหรับผู้ที่มองหาผงกัดสีผมที่ไม่มีกลิ่น ฟอกสีผมให้สว่างขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ Hair Bleaching Powder สูตรนี้เลยค่ะ เพราะมาด้วยปริมาณที่มากถึง 250 g และไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ 12 % ที่มากถึง 1000 ml ได้รับการการันตีจากผู้ผลิตว่าทำให้สีผมอ่อนลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องทิ้งน้ำยาไว้เป็นเวลานาน ซึ่งช่วยลดความเสียหายที่เกิดต่อเส้นผมได้มากทีเดียว สำหรับสาว ๆ คนไหนที่เปลี่ยนสีผมเป็นประจำ และใช้ยากัดสีผมบ่อย ๆ นับว่าซื้อชิ้นนี้ครั้งเดียวเอาอยู่ค่ะ

สำหรับยี่ห้อ Farger นี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตรายแรกของไทย ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของคุณภาพการเพิ่มความสว่างของพื้นสีผม เพราะกัดเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอสำหรับการทำสีผมขั้นต่อไปได้เลย ซึ่งนอกจากคุณสมบัติในการเพิ่มความสว่างของเส้นผมแล้ว ยังมีจุดเด่นที่ไม่มีกลิ่นฉุน เนื้อบางเบา ไม่ร้อนเมื่อทาลงไป มีเนื้อที่ละเอียดสามารถผสมกับดีเวลลอปเปอร์ได้ง่าย และยังไม่ทำลายเส้นผม คงความชุ่มชื้นและนุ่มลื่นของผมให้เหมือนก่อนกัดสี และยังมาในปริมาณจุใจถึง 400 g อีกด้วยค่ะ

สำหรับน้ำยาแบรนด์นี้ เป็นน้ำยากัดสีผมที่ช่วยบำรุงเส้นผมไปในตัว เพราะว่ามีส่วนผสมอย่างโอลีฟออยล์และวิตามินอี เข้ามาช่วยบำรุงเส้นผมให้เงางาม สุขภาพดี แม้กัดสีผม ผมก็ไม่เสีย คงความมีน้ำหนักและเรียบลื่นของผมไว้อย่างเต็มเปี่ยม  นอกจากนี้ ด้วยนวัตกรรมพิเศษของ CRUSET จึงช่วยให้สีผมอ่อนลงอย่างเป็นธรรมชาติ ได้มากถึง 3 - 4 ระดับจากความสว่างเดิม ช่วยให้คุณเตรียมพร้อมรับการทำสีอย่างมั่นใจ แม้กับมือใหม่ที่ไม่เคยกัดสีผมมาก่อนก็สามารถใช้ได้ค่ะ

สำหรับผู้ที่เคยกัดและทำสีผมมาบ้าง คงจะเคยได้เห็นยี่ห้อ Dcash ผ่านตามาบ้างใช่ไหมคะ สำหรับน้ำยากัดสีผมชิ้นนี้ ได้ถูกคิดค้นสูตรมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เส้นผมเกิดความเสียหายจากการถูกเปิดเกล็ดผมน้อยที่สุด ทำให้หลังจากใช้แล้วผมยังคงนิ่ม ไม่แข็งกระด้าง ซึ่งนอกจากช่วยให้สีผมอ่อนลงแล้ว ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ ยังมีส่วนช่วยให้เส้นผมสามารถดูดซับสีย้อมผมได้ดีมากขึ้นอีกด้วย แถมวิธีใช้ยังง่ายแสนง่าย และกัดสีผมให้สว่างขึ้นได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น เป็นการยิงปืนนัดเดียวที่ได้นกหลายตัวเลยนะคะเนี่ย

เป็นน้ำยากัดสีผมชนิดครีมอีกหนึ่งตัวจาก Farger ที่เป็นที่นิยมใช้กันในหมูช่างทำผมมืออาชีพมาก ๆ เนื่องจากน้ำยากัดสีผมสามารถปรับความสว่างของเส้นผมได้สูงสุดถึงระดับ 10 ในครั้งเดียว ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าปรับได้สว่างขนาดนี้ ต้องใช้เวลาในการกัดนานหรือไม่ คำตอบคือไม่นานเลยค่ะ เพียง 20 นาทีก็สามารถได้ผมที่สว่างสดใสแล้ว นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นที่บางเบา ไม่ฉุน และหลังกัดสีผม ผมยังคงเงางามสุขภาพดี ไม่หยาบกระด้าง ที่มากไปกว่านั้น คือมีให้เลือกถึง 50 เฉดสีกันเลยทีเดียว

จะว่าไปแล้ว Berina ก็เป็นอีกยี่ห้อที่เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน และได้รับการตอบรับที่ดีไม่น้อย เพราะสามารถกัดสีออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แลดูเป็นธรรมชาติ แถมมีราคาที่ถูกอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าใครก็สามารถซื้อได้ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือการใช้ร่วมกับน้ำยาดีเวลลอปเปอร์ เพียงแค่ผสมกันก็สามารถใช้ทาลงบนเส้นผมได้เลย นอกจากนี้ เมื่อใช้กัดสีผมแล้ว ยังคงสภาพผมที่มีประกายสดใส แลดูมีน้ำหนักไว้ได้ดี คุณภาพจัดมาเต็มขนาดนี้ ถ้าไม่หาไว้ในมือสักซองคงไม่ได้แล้วนะคะ

สำหรับยี่ห้อนี้ต้องขอบอกว่า Maxx สมชื่อจริง ๆ ค่ะ เพราะสามารถเพิ่มความสว่างของเส้นผมได้สูงสุดถึง 7 ระดับในการกัดเพียงครั้งเดียว แถมมีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยบำรุงเส้นผมให้สุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีก ทำให้ผมเงางาม ดูมีชีวิตชีวา ไม่แห้งเสีย และที่สำคัญเหมาะสำหรับผู้ที่มีประสาทสัมผัสไวต่อกลิ่น เพราะไม่มีกลิ่นฉุนมากวนใจ รวมถึงไม่มีส่วนผสมของแอมโมเนีย ซึ่งเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งอีกด้วย คุณภาพคับราคาขนาดนี้ต้องลองซื้อมาไว้ใช้กันแล้วล่ะค่ะ

อีกยี่ห้อที่คนไทยรู้จักกันดีและได้รับความนิยมสูงสุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากเป็นผงกัดสีผมที่มีประสิทธิภาพสูง มี 3 สูตรให้เลือกได้แก่ Normal Lift, Extreme Lift และ Gentle Lift ปรับสีผมได้สว่างมากสุดถึงระดับ 11 โดยไม่ต้องกัดหลายครั้ง ก็ได้สีผมสว่าง และลดความเสียหายที่เกิดต่อเส้นผมได้ สำหรับผู้ที่กังวลว่าผมอาจออกโทนเหลืองหลังกัด ก็หมดกังวลได้เลย เนื่องจาก Lolane ได้พัฒนาคิดค้นมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สีผมสว่างขึ้นแต่ไม่ติดเหลือง ถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ผงกัดสีผมที่ขอแนะนำจริง ๆ ค่ะ

จะว่าไปแล้วก็มีหลายเคล็ดลับในการฟอกสีผมให้ได้สีอย่างสม่ำเสมออยู๋หลายวิธี โดยวิธีเด่น ๆ ที่แนะนำข้อแรกก็คือ การทำผมให้แห้งและสะอาดก่อนทุกครั้ง เนื่องจากการทาน้ำยากัดสีผมลงบนผมที่ถูกจัดแต่งทรงหรือมีความชื้นอยู่ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สีผมไม่สม่ำเสมอกันค่ะ


เคล็ดลับต่อไป คือ การเริ่มทาน้ำยากัดสีผมจากบริเวณท้ายทอยและหลังศีรษะที่ย้อมสีติดได้ยากก่อนค่ะ เพราะว่าหน้าม้า ขมับ หรือรอยต่อของเส้นผมบริเวณใบหน้า จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นได้ง่ายจากอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้หากทาน้ำยากัดสีผมในบริเวณนั้นลงไปก่อนเป็นส่วนแรก อาจทำให้สีผมสว่างกว่าส่วนอื่น ๆ ได้


นอกจากนี้ การตรวจสอบปริมาณของน้ำยากัดสีผม ที่เหมาะสมต่อความยาวและปริมาณของเส้นผมก่อนการกัดสีผม ก็เป็นเคล็ดลับที่ไม่ควรมองข้าม และเพื่อให้สามารถกัดสีผมออกมาได้พอดี สม่ำเสมอ ขอแนะนำให้เตรียมไว้ในปริมาณที่เยอะเผื่อไว้จะดีที่สุดค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ หลังจากได้ทราบข้อมูลทั้งวิธีการเลือก ข้อดีและข้อเสีย เคล็ดลับในการใช้น้ำยากัดสีผม และ 10 อันดับน้ำยากัดสีผมที่ทางทีมงานมายเบสท์ได้รวบรวมมาให้กันแล้ว ตอนนี้มียี่ห้อที่เล็งไว้ในใจกันบ้างหรือยังคะ เพราะน้ำยากัดสีผม ดูเผิน ๆ อาจเหมือนกันไปหมด แต่อันที่จริงแล้วมีรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน รวมไปถึงจุดเด่นพิเศษของแต่ละชนิดก็ตอบโจทย์ผู้ใช้แตกต่างกันด้วย


ดังนั้น การเลือกน้ำยากัดสีผมให้เข้ากับวัตถุประสงค์ในการใช้หรือวิธีใช้งานของเราจึงเป็นสิ่งที่สำคัญค่ะ ทางทีมงานมายเบสท์หวังว่า จากข้อมูลในวันนี้จะช่วยให้ทุกคนจะสามารถเลือกซื้อน้ำยากัดสีผมที่ชื่นชอบและสนุกไปกับการทำสีผมกันได้นะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปหาข้อมูลดี ๆ มาให้อ่านกันในโอกาสหน้าก่อนนะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ